นโยบายภาครัฐสร้างความไม่แน่นอน
เผยแพร่ : 15 พฤษภาคม 2567 เวลา 07:17 น
![เรือนกระจกสำหรับการเพาะปลูกกัญชาถูกสร้างขึ้นในฟาร์มกังหันลมของ Gunkul](https://static.bangkokpost.com/media/content/20240515/c1_2792995_240515071957.jpg)
เรือนกระจกสำหรับการเพาะปลูกกัญชาถูกสร้างขึ้นในฟาร์มกังหันลมของ Gunkul
กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่ขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจกัญชาและกัญชาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ระงับการลงทุนเพิ่มเติมในกัญชาตามงบประมาณเกือบ 2 พันล้านบาท รอความชัดเจนจากรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายด้านยาเสพติด .
บริษัทผ่านบริษัทในเครือ GK Hemp Group ได้ใช้เงินเกือบ 500 ล้านบาทในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับโครงการนี้ แต่กำลังระงับงบประมาณสำหรับการพัฒนา เนื่องจากฝ่ายบริหารเศรษฐา ทวีสิน ประกาศว่ากำลังพิจารณาจัดประเภทกัญชาใหม่เป็นยาเสพติด
ฝ่ายบริหารชุดก่อนได้ลดทอนความเป็นอาชญากรรมของกัญชาในปี 2565 โดยหวังว่าจะสร้างเศรษฐกิจกัญชาเนื่องจากการสกัดน้ำมันสามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ แต่การขาดการบังคับใช้นำไปสู่การเรียกร้องให้มีนโยบายเผชิญหน้ากัน
“ทางการควรมีกฎระเบียบที่ชัดเจนว่ากัญชาต้องใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือสันทนาการ โดยกำหนดอายุสำหรับผู้ซื้อ และอนุญาตให้ขายได้เฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น” โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานบริษัท กันกุล กล่าว
กัญชาประกอบด้วยน้ำมัน cannabidiol หรือที่เรียกว่า CBD ซึ่งสามารถนำไปใช้รักษาโรคได้หลายชนิด
ก่อนหน้านี้ กันกุลได้ประกาศแผนการเปลี่ยนที่ดิน 200 ไร่ในฟาร์มกังหันลมในจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นพื้นที่ปลูกและผลิตกัญชา โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตกัญชา 1.1 ตันต่อวัน
บริษัทมีเป้าหมายที่จะขาย CBD ให้กับธุรกิจ การผสมน้ำมันในยา อาหาร และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง แต่รัฐบาลอนุญาตให้มีปริมาณ CBD ในระดับต่ำเท่านั้น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยส่วนผสมที่ตั้งใจไว้ นางโศภชากล่าว
กันกุลมีรายได้จากธุรกิจกัญชา 4 ล้านบาทในปีที่แล้ว และคาดว่าจะทำรายได้ 100 ล้านบาทในปี 2567 โดยบริษัทประกาศรายรับ 10 ล้านบาทในไตรมาสแรก
ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐต่อธุรกิจกัญชาไม่ควรส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวม เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัท ซึ่งคิดเป็น 99% ของรายได้ทั้งหมด มาจากธุรกิจหลัก รวมถึงพลังงานด้วย นางโศภชา กล่าว
กันกุลมองเห็นสัญญาณของความล้มเหลวของนโยบายหลังจากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาได้
นโยบายของรัฐที่กลับรถอาจทำให้ผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์กัญชาหยุดการลงทุนและอาจถึงขั้นปิดธุรกิจของตน นางโศภชา กล่าว
“แต่เรายังคงสามารถเปลี่ยนปัญหานี้ให้เป็นโอกาสและสร้างเศรษฐกิจกัญชาได้ หากรัฐบาลสามารถบังคับใช้กฎหมายควบคุมกัญชาได้” เธอกล่าว