บริษัททัวร์ขาออกรายงานจำนวนผู้หางานผิดกฎหมายที่เดินทางด้วยแพ็คเกจทัวร์ไปยังเกาหลีใต้และหลบหนีออกจากกลุ่มทันทีที่พวกเขามาถึง
“นักล่างานผิดกฎหมายมีจำนวนเกินจำนวนนักท่องเที่ยวจริงแล้ว ผู้ประกอบการทัวร์สามารถสังเกตเห็นรูปแบบนักเดินทางปลอมได้เนื่องจากส่วนใหญ่มาพร้อมกับหนังสือเดินทางเล่มใหม่โดยไม่มีประวัติการเดินทางใด ๆ เราต้องปฏิเสธลูกค้าต้องสงสัยเหล่านั้นจากการเข้าร่วมกลุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับเจ้าหน้าที่ในเกาหลีใต้” เจริญ วังนานนท์ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวไทย (TTAA) กล่าว
ทางการเกาหลีใต้ปฏิเสธไม่ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าเมืองเชจู 417 คนจากทั้งหมด 697 คน ตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายเจริญ กล่าวว่า เกาะเชจูกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับแรงงานอพยพผิดกฎหมายจากประเทศไทย เนื่องจากเป็นจังหวัดปกครองตนเองพิเศษที่ไม่ต้องลงทะเบียน Korea Electronic Travel Authorization (K-ETA) ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมี เพื่อใช้สมัครก่อนออกเดินทาง
นอกจากนี้ เกาะแห่งนี้ยังได้ยกเลิกข้อกำหนดสำหรับการทดสอบ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึงสำหรับผู้มาเยือนจากต่างประเทศ ซึ่งหมายความว่าแรงงานผิดกฎหมายสามารถเข้าประเทศด้วยค่าเดินทางที่ต่ำลง
เมื่อรวมกับค่าตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีใต้ที่ต่ำมากในขณะนี้ที่ 6,000-7,000 บาท ปัจจัยเหล่านี้ได้ดึงดูดคนงานที่ต้องการค่าแรงที่ดีกว่าในประเทศบ้านเกิดของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซา
“ค่าแรงขั้นต่ำสูงที่ประมาณ 45,000 บาทต่อเดือนมักจะดึงดูดคนงานให้มาเสี่ยงโชคมากขึ้น เราเห็นปัญหานี้มาตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 แต่เนื่องจากการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวชาวไทยไปยังเกาหลีใต้ประมาณ 500,000 คนในปี 2562 นั้น สัดส่วน แรงงานผิดกฎหมายมีน้อยกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป” นายเจริญกล่าว
อย่างไรก็ตาม จำนวนแรงงานผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า “ผีน้อย” อาจยังคงสูงกว่านักท่องเที่ยวในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั่วไปกังวลว่าจะถูกปฏิเสธ