“เศรษฐา ทวีสิน” นำทีมพบชาวมหาสารคาม ชี้ ปัญหาหนี้นอกระบบหยั่งลึก พร้อมขันนอตทุกภาคส่วนทำงานหนักขึ้น หลังตัวเลขยังไม่เป็นที่พอใจ ขีดเส้นแก้ยาเสพติดใน 90 วัน สั่งรายงานสำนักนายกฯ ทุกเดือน สกัดเข้มชายแดนไม่ให้เข้ามา
เมื่อเวลา 10.50 น.วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ มาถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร มาถึงที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามประเด็นยาเสพติดและหนี้นอกระบบ
ทั้งนี้พบว่ามี นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าของพื้นที่ พร้อมด้วย สส.มหาสารคาม ให้การต้อนรับ ประกอบด้วย นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สส.มหาสารคาม เขต 1 พรรคเพื่อไทย, นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม เขต 2 พรรคเพื่อไทย, นายลัทธชัย โชคชัยวัฒนาการ สส.มหาสารคาม เขต 3 พรรคภูมิใจไทย, นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ สส.มหาสารคาม เขต 4 พรรคเพื่อไทย, นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ สส.มหาสารคาม เขต 5 พรรคเพื่อไทย และ นายรัฐ คลังแสง สส.มหาสารคาม เขต 6 พรรคเพื่อไทย
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZZWECoEsiBRE6xNK.jpg)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc9rxiJIlg0QHwMZ64PVlAynSqhgdTiF0.jpg)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZZCXo4xZwO8rbtTd.jpg)
จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปการแก้ปัญหายาเสพติด สถานการณ์ภัยแล้ง และปัญหาหนี้นอกระบบ โดย นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวรายงานว่า จ.มหาสารคาม ถือเป็นสะดืออีสาน มีประชากร 937,000 คน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมปีละ 67,000 ล้านบาทเศษ รายได้ประชากรต่อหัว ต่อคน ต่อปี 88,000 บาทเศษ เป็นลำดับที่ 8 ของภาคอีสาน และเป็นลำดับที่ 57 ของประเทศ มีพื้นที่ทางการเกษตรรวม 2,420,000 ไร่ คิดเป็น 73% ของพื้นที่ มีพื้นที่ในเขตชลประทานเพียง 580,000 ไร่ หรือร้อยละ 24 ของพื้นที่ทำการเกษตร พืชเศรษฐกิจหลักสำคัญคือข้าวนาปี มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน โดยใช้น้ำฝนเป็นหลัก
ส่วนการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.มหาสารคาม ดำเนินตามยุทธศาสตร์ภาครัฐ โดยจัดทำยุทธการเมืองปลอดภัยจากยาเสพติดครอบคลุมทุกกระบวนการ ตั้งแต่เรื่องการเฝ้าระวังการแพร่กระจายยาเสพติด เอกซเรย์ทุกหมู่บ้าน ชุมชน ผ่านกลไกกวาดบ้านล้างบ้านทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการสกัดกั้นยาเสพติดที่อยู่แนวชายแดน ที่จะใช้ จ.มหาสารคาม เป็นทางผ่านส่งต่อที่อื่น ส่วนการแก้ไขหนี้นอกระบบ ขณะนี้ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเจรจาไปทั้งหมดแล้ว 77% และกลางเดือนนี้จะทำได้ครบถ้วน 100%
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc9rxiJIlg0QHwMZ64PXnVZrjfyf568tt.jpg)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZYYm116mChhOB5Gh.jpg)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZYR7b49E0YbPzRQ9.jpg)
ทางด้าน นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า วันนี้มีการลงพื้นที่และมีการนำรัฐมนตรีมาด้วย เพื่อต้องการดูปัญหาจริงๆ ของ จ.มหาสารคาม หากดูจากตัวเลขแล้วยังน่าเป็นห่วง เพราะรายได้ต่อหัวของประชากรเป็นลำดับที่ 57 ของประเทศ ถือว่าต่ำอยู่มาก เรายังต้องพึ่งภาคเกษตรค่อนข้างเยอะ และภาคเกษตรจะดีได้ต้องมีน้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการบริหารจัดการ ซึ่งตัวเลขชัดเจนผู้ว่าราชการจังหวัดบอกปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากธรรมชาติยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในแง่การทำการเกษตร จึงมีการพูดคุยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมป้องกันสาธารณภัย ให้ดูแลเรื่องน้ำ ขนส่งน้ำบริการประชาชน ซ่อมบำรุงการประปาให้กับประชาชน เพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้ นอกจากนี้ จะต้องมีการพูดคุยกับทางกองทัพโดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ให้มีการมาดูแลในแง่ของรถบรรทุกน้ำของทหารที่มีทั่วประเทศ ให้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรดูแลเรื่องน้ำให้เพียงพอในทุกมิติ
นายเศรษฐา กล่าวต่อถึงเรื่องปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า เป็นปัญหาที่หยั่งลึกในสังคมไทย ทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ ตัวเลขที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนำเสนอ ยอดมูลค่าหนี้ 300 ล้านบาท จริงๆ ต้องยอมรับว่ายังต่ำอยู่ จำนวนลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่เข้ามาลงทะเบียนในระบบไม่ถึง 3,000 คน เราต้องยอมรับก่อน ถึงแม้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ข้าราชการในอำเภอ เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะนำทุกคนเข้าสู่ระบบให้มีการไกล่เกลี่ยลูกหนี้ให้ได้ แต่ตัวเลขยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะทราบดีตัวเลขหนี้นอกระบบมีเป็นแสนล้าน แต่ก็ขอให้กำลังใจและช่วยกันทำงานให้หนักขึ้น พยายามสนับสนุนให้ลูกหนี้เข้ามาแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZZakq8eCZIbj5g0a.jpg)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZYwmmD8UDch1ME2D.jpg)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc9rxiJIlg0QHwMZ64PiY4wIm5QCBLYJy.jpg)
ขณะที่ฝ่ายความมั่นคง ก็ต้องดูแลเรื่องผู้มีอิทธิพลต่างๆ ที่ข่มขู่ไม่ยอมเข้าสู่ระบบ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งจริงๆ แล้วต้องยอมรับว่าปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ปัญหายาเสพติด ส่วนหนึ่งหรืออาจเป็นส่วนใหญ่เลยก็ได้ เกิดขึ้นจากการที่พี่น้องของเราพยายามทำงานเหน็ดเหนื่อย หาเงินมาเลี้ยงชีพทำเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรมและผิดกฎหมาย หากเราแก้ที่รากฐานของปัญหาหนี้นอกระบบได้ ปัญหาต่างๆ ก็จะลดน้อยลง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ปัญหาใหญ่ที่เรามาดูแลในวันนี้คือปัญหายาเสพติด ปฏิเสธไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ของภาคอีสาน ตนเรียนไปแล้ว เรื่องใหญ่เกิดจากการทำงานใช้หนี้ไม่เพียงพอ การบังคับใช้กฎหมายตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมาจัดการกัน วันนี้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มาด้วย แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เรามากันครบ
“อยากให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญเรื่องนี้ ดูแลประชาชนให้เหมาะสม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม จัดทำบัญชีผู้ค้ายาเสพติดแบ่งเป็นขนาดใหญ่กลาง เล็ก ระบุกำหนดกรอบการปราบปราม ต้องไม่เกิน 90 วัน ตั้งแต่วันนี้ และให้ถือว่าผู้ที่มียาเสพติดในครอบครองถือว่าผิดกฎหมาย แต่ต้องมีการแบ่งแยกระหว่างผู้เสพและผู้ค้า และให้รายงานต่อสำนักนายกรัฐมนตรีทุกเดือน ขณะที่ของกลางจะต้องเร่งทำลายเผา อย่าให้มีการเคลื่อนย้าย ทุกอย่างต้องโปร่งใสถูกต้อง”
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZYs6pTSdilSuA8fy.jpg)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQfRGLVXRXwhZY21QMZHqLHcGvaw.jpg)
นอกจากนี้ ขอให้มีการตั้งศูนย์บำบัดทุกหน่วยราชการที่สามารถทำได้ เช่น ค่ายทหาร โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาร่วมดูแล ขณะเดียวกันตำรวจ ทหาร องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นต้องทำงานอย่างบูรณาการ โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาช่วยกันปราบปรามดูแล และขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ปกครอง เข้ามาดูแลระเบียบการจัดการเรื่องความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขด้วย ขอให้เราเคร่งครัดปฏิบัติและคำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเพราะเรื่องยาเสพติดถือเป็นเรื่องใหญ่
ในช่วงท้าย นายเศรษฐา ระบุว่า ขบวนการยึดทรัพย์ต้องทำให้เร็ว สกัดตามชายแดนไม่ให้มียาเสพติดรั่วเข้ามา จัดการกับผู้ค้ายาอย่างเด็ดขาด เรื่องของการเอาชุมชนเข้ามามีส่วนแก้ไขปัญหา ดึงหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันบูรณาการ ทุกคนต้องช่วยกัน ขอย้ำอีกครั้งถนนนี้อีกไกล เชื่อว่าเรามีแผนงานที่ชัดเจน แต่ปัญหาก็ยังอยู่ ราคายาบ้าก็ยังไม่ขึ้นและยังมีมาก เราต้องทำงานกันให้หนักมากขึ้น.