45 องค์กรนักศึกษาจาก 10 มหาวิทยาลัยและภาคประชาชนออกแถลงการณ์ประณามความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรม กรณีการตายของ “บุ้ง ทะลุวัง” พร้อมเรียกร้องนิรโทษกรรมคดี ม.112 และปล่อยผู้ต้องหาคดีนี้ออกจากคุกก่อนจะมีคนต้องจบชีวิตอีก ด้าน กสม.ร่วมเสียใจ ย้ำผู้ต้องขังต้องได้รับสิทธิในการประกันตัว ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนติดตามการผ่าศพชันสูตร คาใจ รพ.ราชทัณฑ์ดูแลรักษาดีหรือไม่ ขณะที่ รพ.ราชทัณฑ์เปิดไทม์ไลน์ก่อนเสียชีวิต นายกฯย้ำรัฐบาลให้ความเป็นธรรมต่อการเสียชีวิตของบุ้ง ขณะที่พรรคก้าวไกลชงคดี “บุ้ง” หารือ กมธ.นิรโทษกรรม สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติสะเทือนใจบุ้งอดอาหารตาย
การเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” หรือ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่อดอาหารประท้วงในเรือนจำกรมราชทัณฑ์รวม 109 วัน จนร่างกายเข้าสู่ภาวะวิกฤติ และเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นขณะถูกคุมขังอยู่ใน รพ.ราชทัณฑ์ ก่อนถูกนำส่งต่อมายัง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี กระทั่งบุ้งสิ้นสุดการหายใจและเสียชีวิตลงเมื่อใกล้เที่ยงวันที่ 14 พ.ค.นั้น
ทนายเกาะติดผ่าศพ “บุ้ง” ชันสูตร
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเช้าวันที่ 15 พ.ค.นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ติดตามความคืบหน้าการผ่าชันสูตรศพ ตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” จากนั้นเปิดเผยว่า คำแถลงของกรมราชทัณฑ์ที่ว่าหัวใจล้มเหลวกว้างเกินไป ได้ปรึกษาหมอหาทางพิสูจน์ว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงคืออะไร ดูตั้งแต่กายภาพว่ามีบาดแผลหรือไม่ มีการทำร้ายร่างกายหรือไม่ มีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ มีเหตุอะไรที่ทำให้หัวใจล้มเหลว การรักษาพยาบาลขั้นต้นดำเนินการถูกวิธีหรือไม่ เรายังไม่ได้ดูภายในดูแต่ภายนอก วันนี้เป็นการผ่าพิสูจน์ ไม่ทราบว่าแพทย์จะสามารถหาเหตุได้แค่ไหนอย่างไร เบื้องต้นมีการนำเนื้อเยื่อจากอวัยวะบางส่วนไปตรวจสอบที่ห้องแล็บ ส่วนสารคัดหลั่งและเลือดนำส่งให้แพทย์ รพ.รามาธิบดีตรวจ เพราะมีความเชี่ยวชาญและมีเครื่องมือทันสมัย คาดว่าผลตรวจจะออกวันที่ 16 พ.ค.
![กฤษฎางค์ นุตจรัส](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3ShlQOKGgyxEYFzaeaf7mUGrXX.jpg)
คาใจก่อนส่ง รพ.ดูแลดีหรือไม่
นายกฤษฎางค์กล่าวต่อว่า คำแถลงการณ์ที่ตนติดใจคือ ตั้งแต่บุ้งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ถอนประกันเมื่อเดือน ก.พ. แล้วประกาศอดอาหารจนอาการทรุดหนัก กระทั่งเข้ารักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจนร่างกายดีขึ้นก่อนส่งกลับไปที่ รพ.ราชทัณฑ์ แต่ที่หมดสติเมื่อเช้าวันที่ 14 พ.ค. เกิดขึ้นได้อย่างไร มีการดูแลรักษาที่ดีหรือไม่ อาจเป็นข้อจำกัดของงบประมาณ ทำให้มีเครื่องมือเครื่องใช้ไม่เพียงพอและที่แถลงว่าบุ้งกินข้าวกินน้ำตามปกติแต่ว่ามีค่าเกลือแร่ต่ำ การที่คนเราจะมีค่าเกลือแร่ต่ำ คงอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ บุ้งจะกินข้าวหรือไม่กิน ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือรัฐดูแลคนที่ยังไม่ถูกตัดสินว่าผิดได้อย่างมีคุณภาพหรือไม่ อยากเรียกร้องไปยังรมว.ยุติธรรม ช่วยดูแลรักษาพยานหลักฐานต่างๆที่เกิดขึ้นที่ รพ.ราชทัณฑ์ ไว้ให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น จริงๆแล้วความตายเป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมืองแต่เป็นมาตรฐานของรัฐที่สะท้อนอะไรหลายอย่าง
45 องค์กร นศ.ออกแถลงการณ์
วันเดียวกัน กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมออกแถลงการณ์ร่วมเครือข่ายองค์การนักศึกษา 45 องค์กร 10 มหาวิทยาลัยและภาคประชาชน กรณีการเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น เครือข่ายองค์การนักศึกษาขอประณามความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมและการกระทำของรัฐที่ได้กระทำนิติสงคราม โดยละเลยหลักนิติธรรมและหลักการพื้นฐานของกฎหมาย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ทบทวนการบังคับใช้กฎหมายภายใต้หลักนิติธรรม ให้ความสำคัญกับการจัดทำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ครอบคลุมถึงคดีทางการเมืองทุกคดี ไม่เว้นแต่คดีตามมาตรา 112 ขอให้การเสียชีวิตของบุ้งเป็นการเสียชีวิตครั้งสุดท้าย ให้คืนความยุติธรรมกับผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองทุกคน ขอให้ความสูญเสียครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญแก่รัฐและสังคมว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐจะอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนโดยยึดถือหลักการทางกฎหมายที่ถูกต้อง สังคมควรลดอคติที่มีต่อผู้เห็นต่างจากตนเอง การดำเนินคดีทางการเมืองกับผู้เห็นต่าง ไม่ใช่วิถีทางแห่งประชาธิปไตย
กสม. เสียใจ-ไม่ควรมีคนตายขณะถูกขัง
ด้านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวและญาติมิตรของ น.ส.เนติพร ระบุว่าไม่ควรมีใครเสียชีวิตระหว่างถูกคุมขัง สิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดยเฉพาะสิทธิที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับผู้ต้องขัง เป็นผู้ที่ต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด กสม.ติดตามสถานการณ์การอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของนักกิจกรรมและผู้ต้องขังรายต่างๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียใดๆขึ้น ก่อนหน้านี้ กสม.เคยเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังที่อดอาหารประท้วงบางรายและประสานกับกรมราชทัณฑ์ ขอให้ดูแลผู้ต้องขัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังเป็นเพียงผู้ต้องหา ไม่ให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตจากการเรียกร้องสิทธิ กสม.ขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนส.เนติพรอย่างรอบด้านและโปร่งใส หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องรีบเร่งหาแนวทางป้องกันมิให้เกิดเหตุสูญเสียอันกระทบต่อสิทธิในชีวิตและร่างกายเช่นนี้อีก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้นและยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศโดยเฉพาะในด้านสิทธิมนุษยชนด้วย
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3ShlQOKGgyxEl8nYKwouEBaS7j.jpg)
กรมราชทัณฑ์เปิดไทม์ไลน์ดูแลบุ้ง
ช่วงสายวันเดียวกัน ที่กรมราชทัณฑ์ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรม นางอาจารี ศรีสุนาครัว ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง นพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์ ผอ.ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ร่วมกันแถลงข่าวการเสียชีวิตของ นส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง นพ.สมภพ กล่าวว่าในนามรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและอยู่ระหว่างการชันสูตรศพ หากผลออกมาจะชี้แจงอีกครั้ง สำหรับไทม์ไลน์การดูแล นส.เนติพร กรมราชทัณฑ์รับตัวมาควบคุมวันที่ 26 ม.ค.67 ขณะนั้นเริ่มอดอาหารแล้ว ได้ระวังดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่ออ่อนเพลียจะพาไปรักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์ เป็นประจำ
นำส่ง รพ.เป็นระยะก่อนเสียชีวิต
นพ.สมภพกล่าวต่อว่าช่วงแรกเมื่อ 29 ก.พ. เข้ารักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์ 8 วัน จากนั้นพบว่ามีอาการอ่อนเพลียจึงนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ 27 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.ถึง 4 เม.ย. ช่วงวันที่ 4 เม.ย. แพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์ทำหนังสือส่งตัวกลับมารักษาที่ทัณฑ์ สถาน หลังกลับมา น.ส.เนติพรทานอาหารได้บ้าง เข้าพักห้องผู้ป่วยรวม มี น.ส.ทานตะวันเพื่อนสนิทรวมอยู่ด้วย ยังพบว่ารู้สึกตัวดี ไม่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ กระทั่งเวลา 06.00 น.วันที่ 14 พ.ค. น.ส.เนติพร เกิดวูบหมดสติ ขณะกำลังพูดคุยกับ น.ส.ทานตะวัน ได้ช่วยเหลือกระตุ้นหัวใจโดยทันทีและรีบส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกระตุ้นหัวใจทำซีพีอาร์ต่อเนื่องจนถึง รพ.ธรรมศาสตร์ และเสียชีวิตเวลา 11.22 น.
เผย จนท.บันทึกการรักษาทุกวัน
ส่วน นพ.พงศ์ภัคกล่าวว่า แต่ละวันเจ้าหน้าที่จะบันทึกการรักษาต่อเนื่อง ส่วนการทานอาหารทานได้ตามลำดับเป็นข้าวต้มและไข่เจียว ค่อยๆเริ่มทานหลังกลับจาก รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ทั้งนี้ คนที่อดอาหารจะต้องค่อยๆเริ่มทานอาหารอ่อนก่อน เพราะระบบทางเดินอาหารยังต้องปรับ รพ.จัดอาหารทั้ง 3 มื้อและจะบันทึกว่าทานมากทานน้อย ที่ตรวจพบว่ามีภาวะโลหิตจางก็ให้ยาบำรุงเลือด แพทย์ได้ย้ำเตือนถึงความสำคัญของเกลือแร่และอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ น.ส.เนติพร รับทราบแต่แสดงเจตจำนงไม่รับวิตามิน ยืนยันว่ามีการปฏิบัติสำหรับกลุ่มผู้อดอาหาร เช่น การตรวจร่างกายทันทีสำหรับผู้ต้องขังเข้ามาใหม่ มีทีมนักจิตวิทยาประเมินให้เปลี่ยนแนวคิดการอดอาหาร แต่ถ้าไม่เปลี่ยนใจจะมีการรักษาและประเมินสถานะทุกวัน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตขอให้รอผลชันสูตรถึงจะสรุปได้ชัดเจน
ยันไม่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงลำดับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ รวมถึงขั้นตอนการช่วยเหลือกู้ชีพทั้งหมด ยังคงมีความสับสนและให้ข้อมูลไม่ตรงกัน นพ.พงศ์ภัค อ้างว่า ได้ดูเพียงกล้องบันทึกภาพขณะเกิดเหตุการณ์เท่านั้น ช่วงอื่นๆไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ดูกล้องวงจรปิด แต่ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามมาตรฐานการกู้ชีพทั้งหมด เป็นไปตามจรรยาบรรณแพทย์และไม่ใช่ความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง สำหรับอาการของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลนั้น แข็งแรงดี กลับมารับประทานอาหารตามปกติแล้ว แฟรงค์สามารถทานอาหารได้มากขึ้นและเดินได้ ส่วน น.ส.ทานตะวันยังคงมีภาวะเครียดและซึมเศร้า ทานอาหารได้น้อย รพ.ราชทัณฑ์ได้ส่งจิตแพทย์เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด
โน้มน้าวให้เลิกอดอาหารยาก
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า กรมราชทัณฑ์จะมีมาตรการในการป้องกันเหตุซ้ำรอยอีกหรือไม่ นพ.สมภพกล่าวว่า ราชทัณฑ์ดำเนินการตามมาตรฐานอยู่แล้ว แต่หากเกิดเหตุจนถึงแก่ชีวิตนั้น ไม่มีแพทย์ที่ไหนจะยื้อชีวิตได้ น.ส.เนติพรทำนิติกรรมไว้แล้วล่วงหน้า เนื่องจากมีความมุ่งมั่นในอุดมการณ์ เราไม่สามารถแตะต้องอะไรได้ช่วยชีวิตได้ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นที่เข้าใจกันอยู่ ส่วนการป้องกันพยายามส่งนักจิตวิทยาเข้าไปโน้มน้าวแล้วอย่างเต็มที่ แต่หากเขายืนยันจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ร่างกายทนไม่ไหว ราชทัณฑ์ทำได้เต็มที่คือส่งให้แพทย์รักษา การจะให้เปลี่ยนใจทำไม่ได้ เป็นเรื่องยาก หากร่างกายมาถึงจุดที่ไม่สามารถดูแลได้แล้วก็ยาก ต่อให้เป็นแพทย์เทวดาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวสอบถามถึงขั้นตอนการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตเบื้องต้นกับ น.ส.เนติพรว่ามีขั้นตอนการช่วยเหลืออย่างไรหลังได้รับแจ้ง ปรากฏว่านพ.สมภพ สังคุตแก้ว และ นพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์ ให้สัมภาษณ์กันไปคนละทิศละทาง ไม่ได้สร้างความกระจ่างตามคำถามของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ยืนยันว่าแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ดำเนินการช่วยชีวิตตามขั้นตอนทุกประการ
ส่งตัว “ตะวัน” เข้า รพ.ธรรมศาสตร์
ขณะที่นางอาจารีเปิดเผยถึงเรื่องที่ รพ.ราชทัณฑ์ส่งตัว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน นักกิจกรรมทางการเมืองจาก รพ.ราชทัณฑ์ มารักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ว่า ส่งมาจริง เหตุที่ส่งมาเพราะเป็นความเห็นแพทย์เบื้องต้นว่าเกิดจากความเครียด ส่วนสภาพร่างกายคาดว่าไม่ได้มีภาวะฉุกเฉินอะไร ตะวันทราบแล้วว่า น.ส.เนติพรหรือบุ้ง เสียชีวิต หลังจากนั้นมีอาการเครียด มองว่าเป็นปกติที่เครียด เพราะทั้งสองอยู่ห้องเดียวกันใกล้ชิดกันตลอด น่าจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าเยี่ยมให้กำลังใจสอบถามความเป็นอยู่กับ น.ส.ทานตะวัน โดยบอกว่าหากมีภาวะเครียด เพื่อความสบายใจ ให้ย้ายไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ดีกว่า เมื่อถามย้ำว่าที่ส่งตัวตะวันมารักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ เนื่องจากหวั่นซ้ำรอยหรือไม่ นางอาจารีย้ำว่า น่าจะเพราะความ เครียดจากที่ทราบว่า น.ส.เนติพร เสียชีวิตมากกว่าและเป็นปกติที่เราต้องดูแลเป็นพิเศษจึงมีการย้าย รพ.
![รังสิมันต์ โรม](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3ShlQOKGgyxEcY3fnrEHcX9S4a.jpg)
ก้าวไกลชงคดีหารือ กมธ.นิรโทษกรรม
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทน ราษฎร กล่าวว่า ในการประชุม กมธ. วันที่ 16 พ.ค. จะเสนอให้ กมธ.พิจารณากรณีเกี่ยวเนื่องกับการนิรโทษกรรม กรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดี มาตรา 112 เสียชีวิตระหว่างคุมขัง เพื่อไม่ให้ผู้เห็นต่างทางการเมือง คดีผิดมาตรา 112 เสียชีวิตอีก เชื่อว่าจะมี สส.คนอื่นร่วมเสนอประเด็นดังกล่าวมาร่วมพูดคุย กมธ.ควรนำมาหารือให้เกิดความชัดเจน เพราะการพิจารณาของ กมธ.ยังไม่มีความชัดเจน จะรวมคดีผิดมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ พรรคก้าวไกลเสนอว่าไม่ควรตั้งต้นที่ประเภทคดี แต่ควรพิจารณาจากแรงจูงใจทางการเมืองที่เป็นต้นเหตุ หาก กมธ.ตั้งต้นที่ประเภทคดีก็ควรพิจารณาให้ครบคดี ไม่ควรมีคดีใดตกหล่นจากการได้รับการนิรโทษกรรม
อย่าให้เกิดเหตุซ้ำรอย “บุ้ง ทะลุวัง”
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า บางกรณีพบว่าการแจ้งข้อหามีปัญหา ใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมือง นอกจากนี้ กมธ.ควรพิจารณาคดีต่างๆที่ไม่ได้ประกันตัวให้ได้รับการประกันตัว ใช้สิทธิต่อสู้คดี ไม่ให้เกิดกรณี น.ส.เนติพรซ้ำรอยอีก เป็นมาตรการที่ทำได้โดยผ่านกลไกการชะลอคดีที่มีเงื่อนไขที่ตรงกับการนิรโทษกรรม จำเป็นต้องให้เกิดข้อสรุปไม่ควรมีใครเสียชีวิตจากความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม สิทธิการประกันตัวไม่ควรมีเงื่อนไขถอนประกันจากการกระทำผิดซ้ำ เพราะคดียังไม่ถูกพิพากษาว่าผิด ประชาชนควรมีสิทธิพื้นฐานได้ประกันตัวที่สามารทำได้ผ่านการปรับปรุงกติกากระบวนการยุติธรรม ศาลและอัยการ
ยกเคส “บุ้ง” ถกแนวทางนิรโทษฯ
ช่วงเย็น นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการเสียชีวิตของบุ้ง ทะลุวัง ว่า ยิ่งทำให้สภาฯควรให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องคดีการเมืองและปัญหาในกระบวนการยุติธรรมจริงจังมากกว่านี้ สิ่งที่รัฐบาลและสภาฯทำได้มีหลายเรื่อง อาทิ การนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ที่เรื่องอยู่ในคณะกรรมการวิสามัญฯ โดยข้อถกเถียงสำคัญหนึ่งที่ยังไม่มีข้อยุตติใน กมธ. คือคดีที่ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 ควรจะเข้าข่ายได้รับนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ ตั้งเป้าว่าจะมีการทำรายงานเป็นข้อเสนอต่อสภาฯให้เสร็จทันในการเปิดประชุมสภาฯสมัยหน้า ใน กมธ.วิสามัญฯน่าจะมีการคุยประเด็นเหล่านี้ ระหว่างที่เรายังไม่มีข้อสรุปเรื่องแนวทางในการทำกฎหมายนิรโทษกรรม ถ้าสามารถทำร่วมกันได้โดยไม่แบ่งแยกฝ่ายค้านรัฐบาล เนื่องจากกรณีของบุ้งเป็นไปได้ที่เราจะหยิบยกสถานการณ์เฉพาะหน้ามาหารือกัน
จี้รัฐ-นายกฯ ทำนิ่งไม่ส่งผลดี
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า อยากส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลและนายกฯว่า ถ้าปล่อยให้สถานการณ์ไม่เปลี่ยนไปเลย แม้ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลแล้วไม่น่าจะส่งผลดีต่อรัฐบาลและไม่น่าจะส่งผลดีต่อสังคมไทยเอง ยืนยันว่าฝ่ายบริหาร รัฐบาลมีบทบาทอย่างมีนัยสำคัญขึ้นอยู่กับว่ามุ่งมั่น และมีนโยบายที่จะทำหรือไม่ไม่ได้ว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องของศาลเท่านั้น หรือแม้กระทั่งฝั่งตุลาการ เชื่อว่าถ้ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจน จะมีผลต่อการทำงานในชั้นของฝ่ายตุลาการด้วย ไม่ได้บอกว่าให้ไปแทรกแซง แต่คิดว่าถ้ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนนั้นมันจะมีผลแน่ๆ
ไม่เด้งรับปฏิรูปสิทธิประกันตัว
นายยุทธพร อิสรชัย ประธานอนุ กมธ.ศึกษาและจำแนกการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวถึงกรณีเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ระหว่างถูกคุมขังคดีมาตรา 112 จะทำให้กมธ.ต้องเร่งการทำงานหรือไม่ ว่า การทำงานของกมธ.ไม่ได้ช้า พิจารณาเป็นไปตามกรอบเวลาในกรณีคดีมาตรา 112 ถือเป็น 1 ใน 25 ฐานความผิด เป็นข้อสรุปที่ยังไม่ได้ตัดออก รายละเอียดต้องรอการนำเสนอให้สภาฯพิจารณาอีก ส่วนการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพรที่มีข้อเรียกร้องการให้ กมธ.ให้ความสำคัญถึงสิทธิประกันตัวมากขึ้นนั้น การประกันตัวเป็นอำนาจศาลยุติธรรม มีกรอบและรายละเอียดที่ใช้พิจารณา ขณะที่การทำงานของ กมธ.มีกรอบที่ชัดเจนคือพิจารณาข้อเสนอเพื่อตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ใช่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
![พรรณิการ์ วานิช](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3ShlQOKGgyxEth9Fijzv7F9bP5.jpg)
พรรณิการ์ขออย่าสะใจการตาย
ทางด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เปิดเผยระหว่างเดินทางมาที่อ.เมืองชัยนาท รณรงค์การเลือกตั้ง สว. ว่า การอดอาหารทุกกรณีในประเทศไทยไม่เคยได้รับความสนใจ ความเห็นใจจากประชาชนตั้งแต่สมัย ร.ต.ฉลาด วรฉัตร อดีต สส.ตราด และกรุงเทพมหานคร อยากให้ทุกคนตระหนักให้ตัดเรื่องที่ผู้ตายรณรงค์ให้ยกเลิกมาตรา 112 , 116 ทุกคนมีสิทธิเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่อยากให้มองเรื่องการอดอาหารประท้วง คือรูปแบบของการแสดงออกถึงที่สุดของชีวิต สิ่งที่มีค่าที่สุดไม่ใช่ทรัพย์สินแต่เป็นชีวิตคนคนหนึ่งตัดสินใจอดอาหารประท้วงคือ การใช้สิ่งสุดท้ายที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา หากไม่เห็นด้วยไม่เป็นไรแต่อย่าดูถูกดูแคลน อย่าสะใจกับการตายของเพื่อนมนุษย์ เพียงเพราะเขามีความคิดต่างออกไป การคิดต่างสามารถคิดได้แต่อย่าดูแคลนชีวิตผู้อื่นหรือสะใจ
“ชูศักดิ์” เสียใจแก้กฎประกันไม่สำเร็จ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์การเสียชีวิตของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ในเรือนจำว่า ขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร ยังเป็นเยาวชนคนหนุ่มสาวควรจะมีชีวิตยืนยาวไปได้อีกนาน ส่วนตัวเคยพูดคุยรับข้อเรียกร้องจาก น.ส.เนติพร อยู่หลายครั้ง ข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวเยาวชนที่ถูกคุมขังยังคงเป็นปัญหาที่เรียกร้องกันมาเป็นระยะๆเหมือนวัวพันหลัก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ พรรค พท.เคยขอแก้รัฐธรรมนูญเรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะสิทธิการประกันตัว ยืนยันหลักการการไม่ให้ประกันเป็นข้อยกเว้น มีได้เฉพาะกรณีผู้ต้องหาจะหลบหนีเท่านั้น บุคคลทุกคนบริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำผิด แต่น่าเสียใจว่าทำไม่สำเร็จ ทุกวันนี้ยังคงยืนยันในแนวคิดนี้ และยืนยันว่า ควรต้องแก้รัฐธรรมนูญ แก้ ป.วิอาญาเรื่องสิทธิการประกันตัว ถึงเวลาที่ควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบได้แล้ว
นายกฯขอให้มั่นใจ รบ.ให้ความเป็นธรรม
ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ หลัง รมว.ยุติธรรม รายงานการเสียชีวิตของ น.ส. เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจกับการสูญเสีย คงไม่มีใครอยากให้เกิดขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัว มั่นใจว่ารัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมโดยสั่งการให้กระทรวง ยุติธรรมสืบสวนสอบสวนในแง่รายละเอียดการเสียชีวิต เอาเรื่องนิติเวชศาสตร์มาพิสูจน์ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย รวมถึงหลายกลุ่มเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเยาวชนที่เหลือ ที่ถูกดำเนินคดี จะมีแนวทางพูดคุยกับกระทรวงยุติธรรมเรื่องนี้อย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า เชื่อว่า รมว.ยุติธรรม ได้ยินเสียงเรียกร้องเรื่องนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณา และจะมีการพูดคุยกันในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน เมื่อถามว่าขณะนี้มีการทวงถามถึงนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่หาเสียงเกี่ยวกับการปล่อยตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จะหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยเมื่อไหร่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุย
“พิชิต” ไม่ขอให้ความเห็น
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเสียชีวิตของ “บุ้ง” นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของบุ้ง เรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนโดยกระบวนการทางกฎหมายถือว่าเสียชีวิตระหว่างการควบคุม ขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแถลงจะดีกว่า เมื่อถามถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่เคยมีนโยบายเดินหน้าเรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม แต่ขณะนี้เงียบหายไป นายพิชิตกล่าวว่า ขอทำงานในตำแหน่งหน้าที่ ไม่ไปก้าวล่วงอะไร คิดว่าเร็วๆนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จะดูความกระจ่างสาเหตุจากการเสียชีวิต เมื่อถามว่า การเสียชีวิตของ น.ส.เนติพรจะกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นคนให้นโยบายจะดีกว่า
สวด 3 วันเผาห้ามสื่อถ่ายภาพ
ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ค. สมาชิกเครือข่ายนักกิจกรรม ได้แจ้งถึงกำหนดการงานพิธีบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ผ่านไลน์กลุ่มสื่อมวลชนว่า จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจศพ น.ส.เนติพร ที่ศาลา 8 วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง วันที่ 16-18 พ.ค. เวลา 19.00 น. สวดพระอภิธรรม วันที่ 19 พ.ค. เวลา 16.00 น. ฌาปนกิจศพ พร้อมกำชับสำหรับสื่อมวลชนว่า ขอความกรุณาและขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดถ่ายภาพครอบครัว และอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ ต่อมา น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ ทะลุวัง ได้เข้ามาโพสต์ตอบกลับไปว่า “ตอนนี้ครอบครัวและญาติของบุ้งยังไม่ได้แจ้งกำหนดการ และรายละเอียดอย่างเป็นทางการนะคะ แต่หลังจากนั้นไม่นาน นส.ณัฐนิชก็แจ้งสื่อมวลชนถึงกำหนดงานบำเพ็ญกุศลและระบุด้วยว่า ขอความกรุณาและขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดถ่ายภาพครอบครัว อยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ ย้ำขอให้สื่อมวลชนทุกท่านมีจรรยาบรรณในการทำข่าว ให้เกียรติครอบครัวและญาติ รวมถึงเคารพผู้เสียชีวิตด้วย
OHCHR สะเทือนใจการเสียชีวิตของบุ้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานปฏิกิริยาของนานาชาติต่อกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถลงผ่านโซเชียลมีเดียเอ็กซ์ว่า รู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่งต่อกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพรที่อดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการปล่อยตัวนักโทษ ทั้งนี้ OHCHR ขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตและการรักษาพยาบาลของ น.ส.เนติพรอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ขณะเดียวกัน นายจอห์น ซิฟตัน ผู้อำนวยการองค์การสิทธิมนุษยชน หรือฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ยังแสดงความกังวลต่อการกระทำของรัฐบาลไทยเพื่อลงโทษบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบัน อย่างการจับกุมโดยพลการและการคุมขังก่อนพิจารณาคดี
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่