Close Menu
ไทยแลนด์ไทมส์
  • หน้าแรก
  • ประเทศไทย
  • การเมือง
  • เศรษฐศาสตร์
  • กีฬา
  • บันเทิง
  • เทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • กำลังมาแรง
มีอะไรเกิดขึ้น

ปภ. ส่ง Cell Broadcast เตือนจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา อพยพไปยังศูนย์พักพิง

นายกฯ บินด่วนพรุ่งนี้ ไปชายแดนไทยกัมพูชา ถกมาตรการรองรับความเสี่ยง

โรงพยาบาลชายแดน อพยพวุ่น กู้ภัยเร่งช่วยกระจายผู้ป่วยไปรักษาตัวตามที่ปลอดภัย

“บิ๊กเล็ก” มอบผู้บัญชาการทหารสูงสุด – ผู้บังคับหน่วยทุกระดับสามารถตอบโต้ “กัมพูชา” ได้ทันที

ชาวสมุทรปราการ อ่วมต่อเนื่องวันที่ 2 น้ำทะเลหนุนไหลท่วมถนน รถสัญจรไปมาลำบาก

Facebook X (Twitter) Instagram
ไทยแลนด์ไทมส์
Facebook X (Twitter) Instagram Pinterest
  • หน้าแรก
  • ประเทศไทย
  • การเมือง
  • เศรษฐศาสตร์
  • กีฬา
  • บันเทิง
  • เทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • กำลังมาแรง
ไทยแลนด์ไทมส์
You are at:Home » “ทศ จิราธิวัฒน์” กับ ตำราสู่ธุรกิจอันดับ 1 ของไทย
ประเทศไทย

“ทศ จิราธิวัฒน์” กับ ตำราสู่ธุรกิจอันดับ 1 ของไทย

ห้องข่าวโดย ห้องข่าวตุลาคม 18, 20252 อ่านนาที
แบ่งปัน Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email

กว่า 70 ปีจากร้านเล็กสู่เครือข่ายค้าปลีกระดับประเทศ เซ็นทรัลเติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงเร็ว สิ่งที่น่าศึกษาไม่ใช่แค่ขนาดธุรกิจ แต่คือ “วิธีคิด” และการบริหารด้วยระบบมืออาชีพ

ทศ เล่าไว้อย่างชัดเจน ระหว่างการให้สัมภาษณ์แก่ตัวแทนหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเพื่อบันทึกเรื่องราวจากรุ่นสู่รุ่นในโอกาสครบรอบ 90 ปีของสององค์กรใหญ่ของประเทศไทยว่า หัวใจสำคัญของการสร้างธุรกิจครอบครัวให้มั่นคงคือการรักษารากเหง้า ขณะเดียวกันก็ต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

ศิลปะการบริหารธุรกิจกงสี

ทศ จิราธิวัฒน์ สรุปหัวใจการบริหารธุรกิจครอบครัวไว้ชัดเจนคือ แยกบทบาทให้ชัด ระหว่าง “ครอบครัว” กับ “บริษัท” โดยให้ความสำคัญกับความเป็นมืออาชีพ เปิดทางให้ผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาขับเคลื่อน เพื่อให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าอย่างโปร่งใส และแข่งขันได้ในตลาดโลก

การบริหารด้วยวิสัยทัศน์รุ่นใหม่

แม้จะมาจากธุรกิจที่มีรากเหง้าเก่าแก่ แต่เซ็นทรัลไม่เคยหยุดนิ่ง ทศ เล่าว่า การขยายตัวในต่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ล้วนมาจากการมองการณ์ไกล และกล้าปรับเปลี่ยนตัวเอง 

กลยุทธ์นี้ทำให้ห้างเซ็นทรัลไม่เพียงเป็นผู้นำในประเทศไทย แต่ยังสามารถยืนหยัดท่ามกลางการแข่งขันระดับสากลด้วย

บทเรียน 4 ข้อสำหรับธุรกิจครอบครัว

สิ่งที่ได้จากการบอกเล่าของทศ คือบทเรียนที่กงสีทุกแห่งสามารถนำไปใช้ได้ มีด้วยกัน 4 ข้อ ได้แก่

1. แยกบทบาทให้ชัด ระหว่างความเป็นครอบครัว กับการบริหารธุรกิจ

2. เปิดกว้างรับผู้บริหารมืออาชีพ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ๆ

3. ยึดคุณค่าร่วมของครอบครัวเป็นศูนย์กลาง แต่พร้อมปรับตัวตามยุคสมัย

4. คิดการณ์ไกลเกินกว่าประเทศ มองการเติบโตในระดับโลกตั้งแต่เนิ่นๆ

วิกฤตที่หล่อหลอม“จิราธิวัฒน์”

ไฟไหม้ชิดลม – เปลี่ยนความสูญเสียเป็นโอกาส

เหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักเพราะเกิดความเสียหายอย่างหนักกว่า 1,500 ล้านบาท แต่ทศมองต่างออกไป เขาเห็นว่า แม้จะมีความเสียหายหนัก แต่ลูกค้ายังอยู่ เพียงแค่ย้ายไปใช้บริการสาขาอื่น และการสร้างใหม่ยังเป็นโอกาสทำให้ห้างดีกว่าเดิม 

เหตุการณ์นี้สอนว่า ทุกวิกฤต คือโอกาส หากเรามองด้วยสายตาแห่งการสร้างสรรค์

วิกฤตต้มยำกุ้ง – การเสียสละเพื่อรักษาหลักการ

ในปี 2540 ค่าเงินบาทพุ่ง ดอกเบี้ยก็พุ่ง หนี้สินท่วม จนต้องขายทรัพย์สินจำนวนมาก รวมทั้งธุรกิจ “บิ๊กซี” ที่สร้างมากับมือออกไป แม้เป็นความเจ็บปวด แต่ทศก็เลือกรักษาเสาหลักของกลุ่ม และโฟกัสธุรกิจที่มั่นคงกว่า 

ครั้งนั้น ทศเล่าว่าเขาตัดสินใจขายบิ๊กซี ไปในราคา 6,000 ล้านบาท แต่มูลค่าที่มีการซื้อขายกันต่อๆ มาสูงถึง 100,000 ล้านบาท แต่โดยสรุป วิกฤตครั้งนั้นทำให้เซ็นทรัล “ลีน” เหมือนนักกีฬาที่ไร้ไขมัน แข็งแรงกว่าเดิม และเข้าใจความหมายของการบริหารค่าใช้จ่ายที่แท้จริง

โควิด-19 – จากหน้าร้านสู่หน้าจอ

กว่า 70 ปี เซ็นทรัลไม่เคยปิดห้าง แต่โควิด-19 ทำให้ทุกสาขาต้องหยุดชะงัก ทว่าทศไม่ปล่อยให้ยอดขายหาย เขาพลิกวิธีคิดให้พนักงานหน้าร้านขายของออนไลน์ สร้างรายได้ทดแทน แม้พนักงานจะกลัว และเป็นกังวล แต่เขาย้ำว่า อย่าตกใจ ให้ตั้งใจว่า เราจะสู้อย่างไร และวิกฤตครั้งนี้ก็ทำให้เซ็นทรัลลุกขึ้นยืนหยัดได้ เพราะความยืดหยุ่น และการพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ

บทเรียนทั้ง 3 ช่วงตอนแห่งวิกฤตนี้ สะท้อนว่า การบริหารธุรกิจยักษ์ใหญ่ไม่ใช่แค่การขยายสาขา แต่คือการเผชิญวิกฤตด้วยสติปัญญา มองหาโอกาส และเลือกโฟกัสในสิ่งที่ทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งยั่งยืน

ผลลัพธ์จากการตัดสินใจของทศ แสดงให้เห็นการฟื้นตัวในปีต่อๆ มา ได้แก่

  • กำไรสุทธิในปี 2023 อยู่ที่ราว 8,000 ล้านบาท
  • ในปี 2024 รายได้ของ CRC อยู่ที่ประมาณ 262,000 ล้านบาท
  • งบไตรมาส 1/2025 รายได้รวม 67,255 ล้านบาท

ขณะที่การลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัลในต่างประเทศ ยังเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่เพียงแต่ต้องการเติบโตในไทยเท่านั้น แต่ยังต้องการขยายอาณาจักรการลงทุนสู่ภูมิภาค และตลาดโลกด้วย

เวียดนาม

  • Central Retail วางแผนการลงทุนในเวียดนามมากกว่า 30,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์ม Omnichannel เบอร์ 1 ในธุรกิจอาหาร และอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม
  • ตั้งเป้าหมายยอดขายที่เวียดนามไว้ที่ 100,000 ล้านบาท และขยายสาขาให้ครอบคลุม 55 จังหวัดของเวียดนาม
  • สร้างโครงการช่วยผู้ประกอบการเวียดนามให้เข้าถึงห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และลดการพึ่งพิงตลาดอเมริกา

ยุโรป

  • เซ็นทรัลได้เข้าครอบครอง Globus ห้างสรรพสินค้าหรูในสวิตเซอร์แลนด์ครบ 100% ซึ่งเป็นการตอกย้ำความตั้งใจลงทุนในตลาดยุโรป รวม 11 ประเทศ
  • ความเคลื่อนไหวของการลงทุนในยุโรป รวมถึงแผนการใช้เงินลงทุนประมาณ 1,300 ล้านยูโร เพื่อขยายและอัพเกรดสโตร์ในเยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ในอีก 5 ปีข้างหน้า
  • มีการนำเงินทุนจากการขายทรัพย์สินบางตัว เช่น การขาย Rinascente เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และมุ่งเน้นตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น
  • กลุ่มเซ็นทรัลยังได้เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (60%) ของ Selfridges Group ร่วมกับกองทุน PIF ของซาอุดีอาระเบีย (40%) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในสินค้าหรูของยุโรป ซึ่งทศเห็นว่า สินค้าแบรนด์เนมนับเป็นสินค้าสำคัญที่ยังคงมีการเติบโตสูงในห้าง Selfridges ของมหานครลอนดอน 

บทเรียนจากการเอาตัวรอดในวิกฤต การวางระบบบริหารกงสีให้มืออาชีพ และการขยายฐานสู่ผู้บริโภคในต่างประเทศ คือเหตุผลที่ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลได้รับการจัดเครดิตให้เป็นบริษัทอันดับหนึ่งที่มีเครดิตเรตติ้งอยู่ในระดับ A ของประเทศไทย

ในเชิงการเปรียบเทียบ ถ้ากลุ่มเซ็นทรัลของตระกูลจิราธิวัฒน์ สามารถขยายเครือข่ายค้าปลีกไปทั่วโลกได้มากกว่านี้ ท้ายที่สุดพวกเขาจะกลายเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่สร้างความมั่งคั่งให้แก่ตระกูลได้เช่นเดียวกับ LVMH, Walmart, Amazon และค่ายธุรกิจอื่นๆ ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก 

และวันหนึ่ง ธุรกิจของประเทศไทย เช่น CP, ThaiBev, Gulf, PTT, Double A หรือ TUF จะเป็นบริษัทข้ามชาติที่นอกจากจะสร้างความแข็งแกร่ง และมั่งคั่งตามติดกันมาแล้ว ยังสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนมาก ภายใต้วิธีคิด และการบริหารธุรกิจในรูปแบบเดียวกันด้วย

ต้องมีสักวันที่ภาคธุรกิจเอกชนไทย จะก้าวไปสู่ทำเนียบธุรกิจขนาดใหญ่ของโลก


แบ่งปัน. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปภ. ส่ง Cell Broadcast เตือนจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา อพยพไปยังศูนย์พักพิง

ธันวาคม 7, 2025

โรงพยาบาลชายแดน อพยพวุ่น กู้ภัยเร่งช่วยกระจายผู้ป่วยไปรักษาตัวตามที่ปลอดภัย

ธันวาคม 7, 2025

ชาวสมุทรปราการ อ่วมต่อเนื่องวันที่ 2 น้ำทะเลหนุนไหลท่วมถนน รถสัญจรไปมาลำบาก

ธันวาคม 7, 2025
ข่าวเด่น

JongFlow Launches International Version of Digital Management Solution for Billiards Clubs, Promoting Technology Democratization with Chinese Expertise

ตุลาคม 9, 202534 Views

มาตรฐานเชื้อเพลิงชีวภาพเจ็ทใกล้เข้ามาแล้ว

ตุลาคม 17, 202511 Views

Mars Petcare ศูนย์พักพิงเปิดตัวโครงการริเริ่มการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม

ตุลาคม 10, 202511 Views
ข่าวล่าสุด

“จุลพันธ์” นำทีมเพื่อไทย ผนึก “ประชาชาติ” ส่งอาสาสมัครเร่งฟื้นฟูหาดใหญ่

โดย ห้องข่าวธันวาคม 7, 2025

เกิดเหตุปะทะพื้นที่ “ภูผาเหล็ก” ไทยตอบโต้ตามกฎ มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ

โดย ห้องข่าวธันวาคม 7, 2025

กกต. แจงยึดหลักกฎหมาย สูตรคำนวณ สส. แบบแบ่งเขต ใช้ข้อมูลจำนวนราษฎรเฉพาะที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น

โดย ห้องข่าวธันวาคม 7, 2025
© 2025 ไทยแลนด์ไทมส์. สงวนลิขสิทธิ์.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • ติดต่อ

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Sign In or Register

Welcome Back!

Login to your account below.

Lost password?