ธนาคารตำหนิการเติบโตของ GDP โลกที่ลดลง
ซิตี้แบงก์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2565 เป็น 3.5% จาก 3.6% โดยจีดีพีปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 4.5% ลดลงจาก 4.8%
นลิน ชุติโชติธรรม ที่ปรึกษาการลงทุนของ Citi Thailand กล่าวว่า การประมาณการที่ตกต่ำนั้นเกิดจากการใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะชะลอตัวและการเติบโตทั่วโลก
นอกจากนี้ ธนาคารยังคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 เท่า โดยเพิ่มขึ้น 0.25% นางนลินกล่าวเสริม
ซิตี้แบงก์คาดว่า กนง. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และอีกสองครั้งในครึ่งแรกของปี 2566
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า กนง. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาตรฐาน 25 จุดในวันที่ 10 ส.ค. แล้วปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปลายปีนี้
อัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมุ่งเป้าไปที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในปัจจุบัน
ในปีนี้ยังมีการประชุมกนง.อีก 3 ครั้ง คือ วันที่ 10 ส.ค. 28 ก.ย. และ 30 พ.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปของไทยเพิ่มขึ้น 7.61% ในเดือนกรกฎาคม โดยได้แรงหนุนจากราคาพลังงานที่สูง และพลาดการคาดการณ์ของรอยเตอร์ที่ 7.8% ก้าวแม้ว่าจะต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 7.66% ของเดือนมิถุนายนเล็กน้อย แต่ก็ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551
นอกจากนี้ ซิตี้แบงก์ยังคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นทั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และในปี 2566 หลังจากการเปิดประเทศและเพื่อนบ้านอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเป้าหมายนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนในปีนี้
Ken Peng หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Citi Global Wealth กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงในหลายประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี ในขณะที่ยังคงมีความไม่สมดุลของห่วงโซ่อุปทานและนโยบายการเงินและการธนาคารที่เข้มงวดขึ้นในด้านต่างๆ ประเทศ. ความกังวลเรื่องราคาน้ำมันจะยังคงดำเนินต่อไปเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่
เขาเสริมว่าความผันผวนทั่วโลกจะยังคงเหมือนเดิมในขณะที่สหรัฐฯ เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอันเนื่องมาจากอัตราเงินเฟ้อที่ต่อเนื่อง การว่างงาน และการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง