ธุรกิจไทยตั้งเป้าที่จะขยายการค้าและการลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอาหารแปรรูป เกษตรกรรม การท่องเที่ยว พลังงานหมุนเวียน พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ
สนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าและสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า กัมพูชามีการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 7-8% ต่อปี อันเป็นผลมาจากการเปิดประเทศสู่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
กัมพูชาพยายามพัฒนาภาคการท่องเที่ยวและเกษตรกรรม แต่ประเทศยังขาดความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงพอ โดยเฉพาะในด้านการจัดเก็บและการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า
“นี่เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับธุรกิจไทยในการร่วมทุนกับคู่ค้าชาวกัมพูชาในหลายภาคส่วน เช่น อาหารแปรรูป เกษตรกรรม การท่องเที่ยว พลังงานทดแทน พลาสติก ภาคบริการ รวมถึงอัญมณีและเครื่องประดับ” นายสนั่น กล่าว ซึ่งเป็นผู้นำการเยือนกัมพูชาหลังเกิดโรคระบาดครั้งแรกโดยนักธุรกิจไทยกว่า 60 รายในวันที่ 4-5 ส.ค.
ตามที่นายสนั่น กล่าว คณะผู้แทนธุรกิจของไทยได้พบกับนายจำ ประสิทธิ์ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของกัมพูชา พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาช่วยจัดการกับอุปสรรคในการอำนวยความสะดวกทางการค้า ในแง่ของกฎระเบียบและข้อบังคับที่ซ้ำซ้อน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น
นายสนั่นกล่าวว่ากัมพูชามีศักยภาพที่จะเป็นฐานการผลิตที่เน้นการส่งออกสำหรับนักลงทุนไทยในขณะนี้ เนื่องจากประเทศนี้มีข้อตกลงการค้าเสรีกับหลายประเทศ รวมทั้งจีนและเกาหลีใต้
เขาเสริมว่าภาคธุรกิจไทยได้เสนอให้ความร่วมมือมุ่งเน้นไปที่อัญมณีและเครื่องประดับตลอดจนการศึกษา
ตามที่นายสนั่นกล่าว กลุ่มธุรกิจยังเสนอให้รัฐบาลไทยสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างอำเภออรัญประเทศของสระแก้วกับปอยเปตของกัมพูชาเพื่ออำนวยความสะดวกการค้าข้ามพรมแดนและส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบชายแดนตะวันออกของไทย
ทางรถไฟถูกระงับหลังจากการระบาดของ Covid-19 ในปี 2020
การค้าสองทางระหว่างไทยและกัมพูชามีมูลค่ารวม 7.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เพิ่มขึ้น 10.2% จากปีก่อนหน้า
การส่งออกจากประเทศไทยมีมูลค่า 7.07 พันล้านดอลลาร์ และการนำเข้าอยู่ที่ 895 ล้านดอลลาร์