สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ยังคงเชื่อว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 0-1% ในปีนี้ เนื่องจากเรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อกระตุ้นความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของประเทศและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ
ชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สรท. กล่าวว่า การส่งออกของไทยในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. มีแนวโน้มหดตัวเล็กน้อยจากปีก่อน ส่งผลให้ครึ่งปีแรกลดลง 5-6% อย่างไรก็ตาม เขามองเห็นโอกาสในครึ่งปีหลังที่จะเร่งการเติบโตของการส่งออกและบรรลุการเติบโต 0-1% ตลอดทั้งปี
“หากเราไม่ทำอะไรเลย มันยังคงเป็นความหวัง แต่เราได้วางกลยุทธ์แล้วว่าจะเจาะตลาดใหม่ ๆ สำหรับสินค้าบางประเภทได้อย่างไร มีความเป็นไปได้ที่การส่งออกในปีนี้จะเติบโตถึง 0-1%” นายชัยชาญกล่าว
จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกของไทยลดลง 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 2.2% เป็น 96.5 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 4.51 พันล้านดอลลาร์ .
นายชัยชาญ กล่าวว่า การขนส่งของไทยได้ผ่านจุดตกต่ำและกำลังมุ่งไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างวางแผนเปิดตลาดในเชิงรุกในภูมิภาคใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง จีน และอินเดีย ซึ่งเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว เขากล่าว
มีการจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจเพื่อเพิ่มการส่งออกสำหรับผลิตภัณฑ์เฉพาะ เช่น ข้าว อาหาร ยาง และน้ำตาล เพื่อชดเชยการลดลงของฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เม็ดพลาสติก สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
นายชัยชาญ กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงหลายประการอาจขัดขวางแผนการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจขัดขวางแผนส่งเสริมการส่งออกและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกอันเป็นผลจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน เช่น การเงิน การผลิต การส่งออก วัตถุดิบ และพลังงาน
อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงสูง ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซาและทำให้ต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจสูงขึ้น
ที่สำคัญต้นทุนการผลิตยังคงสูง เช่น ค่าไฟฟ้า ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของประเทศไทย
ประกอบกับปริมาณสินค้าค้างสต๊อกในประเทศคู่ค้ายังคงมีมากทำให้คำสั่งซื้อล่าช้า ขณะที่ปัจจัยด้านสภาพอากาศอาจส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรของไทย
จากสถานการณ์ดังกล่าว สรท. จึงเสนอแนะให้เร่งดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ส่งเสริมแผนการส่งออกและพยายามแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ทางกลุ่มขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดภาระมากเกินไปกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สรท.ยังเรียกร้องให้ภาครัฐจัดบริการจัดการไฟฟ้าที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันกับประเทศคู่ค้าสำคัญ
สภาฯ เสนอแนะกลไกการดำเนินการเพื่อส่งเสริมมาตรการด้านการค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ นายชัยชาญ กล่าวว่า สรท. ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของไทยที่จะเสนอต่อรัฐบาลใหม่ แผนดังกล่าวประกอบด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การลดต้นทุน การปรับปรุงประสิทธิภาพ และสร้างโอกาสทางการค้าเพื่อรองรับการเติบโตของการส่งออกอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2567