ประมาณ 10.8 พันล้านบาท สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555
การใช้จ่ายในวันแม่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9% ในปีนี้เป็น 10.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกกังวลน้อยลงเกี่ยวกับตัวแปร Omicron ของ Covid-19 ซึ่งสะท้อนถึงการเริ่มต้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีของประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC)
ธนวัฒน์ พรวิชัย ประธาน UTCC กล่าวว่าการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงวันแม่เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งรวมถึงผู้ตอบแบบสอบถาม 1,288 รายทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงวันหยุดและจะออกไปท่องเที่ยวและรับประทานอาหารนอกบ้าน
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ 36.5% ของพวกเขากล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะลดการใช้จ่ายเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูง และหนี้ในระดับสูง
นายธนวรรธน์เล่าว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่วางแผนจะพาแม่ไปทานอาหารนอกบ้าน ทำบุญ และเที่ยวต่างจังหวัดแบบไปเช้าเย็นกลับ
เขากล่าวว่านี่เป็นโพลแรกที่ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในขณะนี้ ซึ่งผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 น้อยลง
“การใช้จ่ายที่สูงขึ้นสอดคล้องกับข้อมูลอื่นๆ เช่น ยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ยอดขายบ้าน และกำลังซื้อที่ฟื้นตัว โดยได้แรงหนุนจากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว” นายธนวัฒน์กล่าว “คาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัว 5-8% ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 8-10 ล้านคนตลอดทั้งปีในปี 2565”
อย่างไรก็ตาม นายธนวัฒน์ตั้งข้อสังเกตว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงเปราะบางอยู่ในขณะนี้ ซึ่งการฟื้นตัวเกิดขึ้นจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเท่านั้น
“โดยทั่วไป ผู้คนอาจไม่รู้สึกถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น และผู้คนยังคงมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะใช้จ่าย” เขากล่าว “ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องดูแลราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด ทั้งค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้า เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน”
ในการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง นายธนวัฒน์คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินซึ่งมีกำหนดจะประชุมในวันนี้ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง 0.25 จุดพื้นฐานเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
“เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในไตรมาสที่สี่ โดยได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม” เขากล่าว