บมจ. เอสเอเอฟ สเปเชียล สตีล ผู้จัดจำหน่ายเหล็กพรีเมียมในประเทศไทย เดินหน้าแผนการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดการลงทุนทางเลือก (MAI) เนื่องจากบริษัทตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจในประเทศ
เงินจากการขายหุ้นจะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาคลังสินค้าเหล็กและเหล็กกล้าแห่งใหม่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ใหม่ และการซื้อเตาเผาไนไตรด์ด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย
เงินส่วนหนึ่งจะถูกใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
“บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อการเสนอขายหุ้น IPO แล้ว” นายพิศิษฐ์กล่าว
“สูงสุด 80 ล้านหุ้น หรือ 26.6% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จะถูกจดทะเบียนใน MAI”
บริษัทคาดว่าภาคอุตสาหกรรมของไทยจะเติบโตต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้การบริโภคเหล็กในประเทศเพิ่มขึ้นในที่สุด
บริษัทเชื่อว่าราคาเหล็กในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาเหล็กของประเทศไทย การเพิ่มขึ้นนี้เป็นโทษจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย – ยูเครนซึ่งไม่มีสัญญาณของการลดหย่อน
“สงครามไม่เพียงแต่ทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น แต่ยังทำให้เกิดความล่าช้าในการสั่งซื้อและส่งมอบเหล็กใหม่” นายพิศิษฐ์กล่าว
สมาคมผู้ผลิตเหล็ก EAF Long Product กล่าวก่อนหน้านี้ว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้ผลักดันราคาเหล็กในประเทศขึ้น ทำให้ผู้ซื้อบ้านและบริษัทก่อสร้างต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
เหล็กเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ประสบปัญหาการขึ้นราคาหลังความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกปะทุขึ้น
รัสเซียเป็นผู้ผลิตเหล็กและผู้ส่งออกเหล็กระดับโลก แต่นับตั้งแต่การรุกรานของยูเครน การผลิตเหล็กในรัสเซียและยูเครนถูกระงับหรือปิดตัวลง
ผลิตภัณฑ์เหล็กต่างๆ มีราคาแพงขึ้น ชัยเฉลิม บุญญานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสมาคมฯ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ราคาเหล็กเส้นปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจหลัก