ชัดเจนแน่นอนแล้วว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง สำหรับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่จากลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่ไม่ว่าจะใช้มนต์คาถา จะหลวงพ่อ วัดไหนก็ไม่สามารถกล่อมคีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ให้อยู่กับทีมต่อไป
หลังล่าสุด เอ็มบัปเปได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะอำลา “เปแอสเช” หลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ย้ำคำเดิมเหมือนที่เคยออกมา ประกาศในช่วงซัมเมอร์ที่แล้วว่าจะเล่นให้กับ ปารีสซีซันนี้เป็นซีซันสุดท้าย โดยเจ้าตัวเผยเหตุที่ต้องการย้ายทีมเนื่องจากต้องการไปหาความท้าทายใหม่ๆในต่างประเทศ
ส่วนปลายทางนั้นก็ไม่ต้องสืบน่าจะอยู่ที่เมืองหลวงของประเทศสเปนอย่างกรุงมาดริด นั่น ก็คือ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์ลา ลีกา ทีมล่าสุดอย่างแน่นอน แม้ว่าจะยังไม่มีประกาศออกมา อย่างเป็นทางการ แต่สัญญาณที่ส่งซิกมาเนิ่นนานตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาก็คงไม่มีพลิกล็อกอีกแล้ว
แต่ที่ยังไม่ชัดเจน แต่ก็จะชัดเจนอีกในไม่ช้า ก็คือการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ตอนนี้กำลัง ขับเคี่ยวกันระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซนอล ซึ่งเกมพรีเมียร์นัดตกค้างที่กำลังจะฟาดแข้งกันในวันอังคารนี้จะเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าใครจะมีโอกาส คว้าแชมป์ไปครอง
โดยเกมดังกล่าวเป็นการพบกันระหว่าง “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ จะเปิดรัง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือน ของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งสถานการณ์ในเกมนี้ไม่ต้องสืบคือ ซิตี้ ต้องชนะอย่างเดียว ส่วนสเปอร์สไม่มีลุ้นอะไรแล้วได้ที่ 5 ค่อนข้างจะ แน่นอนแล้ว
ก็ต้องมาดูกันว่า “ไก่เดือยทอง” จะยอมช่วย คู่อริตัวฉกาจอย่างอาร์เซนอลหยุด “เรือใบสีฟ้า” เพื่อเบิกทางให้ “เดอะ กันเนอร์ส” ก้าวไปสู่แชมป์พรีเมียร์ลีกหรือไม่
แต่ถ้าดูจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาคงยากที่สเปอร์สจะยอมทำเพื่ออาร์เซนอล แต่เชื่อว่า “ไก่เดือยทอง” ทุกคนก็คงจะสู้เต็มที่เพื่อตัวเอง เพราะถ้าหากเอาชนะหรือยันเสมอ “เรือใบสีฟ้า” ได้ ก็อาจจะเอาไปคุยโวทับได้ว่าที่ได้แชมป์ก็เพราะพวกเขา 555
เราเกริ่นไปก็ให้ขำๆ แต่เอาเข้าจริงบรรดาทีมระดับอาชีพขนาดนี้ทั้งสองฝ่ายใส่กันยับแน่นอนเพราะทีมระดับนี้ไม่มีเล่นกันแบบขำๆแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จากฟอร์มช่วงหลังของสเปอร์สก็ถือว่ายากที่อาร์เซนอลจะฝากผีฝากไข้ได้ เช่นเดียวกับ “เรือใบสีฟ้า” ที่ก็คงหวังยากที่จะให้ คู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หยุด “เดอะ กันเนอร์ส” ให้ เพราะชั่วโมงนี้ทั้ง “ไก่” และ “ผี” แย่ไม่ต่างกัน
โดยเฉพาะสเปอร์ส ช่วงหลังแนวรับค่อนข้างรั่วเสียประตูง่าย ทั้งคริสเตียน โรเมโร และมิคกี ฟาน เดอ เฟน ก็ไม่ได้จับคู่กันแล้วแข็งแกร่งเหมือนตอนต้นฤดูกาล ต้องมารับมือปิศาจจอมถล่มประตูร่างยักษ์อย่างเออร์ลิง ฮาแลนด์ รวมถึง กองหนุนอย่างเควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเดน, แบร์นาร์โด ซิลวา ดูแล้วคงยากที่ “ไก่เดือยทอง” จะต้านไหว
สุดท้ายเชื่อว่าจบซีซันนี้น่าจะเป็นแมนเชส เตอร์ ซิตี้ ที่จะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน ไปทีมแรกได้อย่างแน่นอน
และบอกได้เลยว่าสถิติคว้าแชมป์ติดต่อกัน มีแววว่าจะยืดออกไปเป็น 5 สมัยซ้อน ในปีหน้าอีกด้วย เพราะดูแล้วว่าขุมกำลัง “เรือใบ” น่าจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
ไม่ว่าบรรดาทีมต่างๆในพรีเมียร์ลีก รวมหัวกันรุมเตะขัดขาแมนฯ ซิตี้ มากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่เห็นจะมีท่าทีว่าจะโค่น “เรือใบ” ลำนี้ให้ล่มได้เลย!!
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม