ที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ไม่มีผลบังคับใช้กับคดีการเมือง รมว.ยุติธรรมเตรียมบินร่วมลงนามการประชุมรมต.อาเซียนด้านกฎหมาย 14 พ.ย. ที่ฟิลิปปินส์
วันที่ 4 พ.ย. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ขออนุญาตลงนามร่างสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนและการดำเนินการให้ร่างสนธิสัญญานี้มีผลบังคับใช้ ซึ่ง รมว. ยุติธรรม จะเดินทางไปลงนามในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านกฎหมาย (ALAWMM) ครั้งที่ 13 วันที่ 14 พ.ย. ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
โดยสาระสำคัญร่างดังกล่าวว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการให้ความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนภายในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งคล้ายคลึงกับสนธิสัญญาในเรื่องเดียวกันที่ไทยได้จัดทำกับประเทศต่าง ๆ เราจะสามารถขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขอให้ประเทศปลายทางนำส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ หรือประเทศต้นทางสามารถขอให้เราส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยหลักเกณฑ์สำคัญคือสนธิสัญญานี้จะบังคับใช้กับคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมถึงคำร้องขอจับกุมชั่วคราวที่ยื่นภายหลังจากวันที่สนธิสัญญามีผลบังคับใช้ โดยไม่คำนึงถึงวันเวลาที่ได้กระทำความผิด โดยผู้ร้ายที่ถูกขอตัวในความผิดซึ่งจะต้องมีโทษจำคุก หรือจำกัดเสรีภาพอย่างน้อย 1 ปี หากภาคีผู้รับคำร้องกำหนดไว้ กรณีต้องการตัวเพื่อบังคับโทษ ต้องเหลือระยะเวลาของโทษอย่างน้อย 6 เดือน
คดีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนี้จะยกเว้นคดีลักษณะการเมือง คดีการเมืองจะไม่มีผลบังคับใช้กับสนธิสัญญาฉบับนี้ และภาคีมีสิทธิที่จะปฏิเสธการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้หากสิ่งที่ขอไปนั้นขัดกับกฎหมายในประเทศนั้น ๆ และ ครม. ได้รับความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วว่า เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นสัญญาตามมาตรา 178 แห่งรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าลักษณะวรรคสอง และวรรคสาม ไม่ต้องนำเสนอรัฐสภา





