วอชิงตัน: ประเทศไทยกำลังอยู่ใน “ช่วงละเอียดอ่อน” หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม และเป้าหมายของสหรัฐฯ คือการสนับสนุน “รัฐบาลประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ” ที่นั่น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคอินโดแปซิฟิกกล่าวเมื่อวันอังคาร
“เราได้เฝ้าดูการเลือกตั้งอย่างระมัดระวัง” เคิร์ต แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานภาคพื้นอินโดแปซิฟิกของทำเนียบขาวกล่าวกับสถาบันวิจัยฮัดสัน “นี่เป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนในแง่ของการจัดตั้งรัฐบาล”
พรรคเดินหน้าฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยครองชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้วในประเทศไทย เอาชนะพรรคอนุรักษ์นิยมที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพที่ควบคุมรัฐบาลนับตั้งแต่การรัฐประหารครั้งล่าสุดของประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งโค่นล้มรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
พวกเขาพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคอื่นอีก 6 พรรค อย่างไรก็ตาม ปิตา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้นำกลุ่ม Move Forward และนายกรัฐมนตรีแถวหน้าต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากเย็นแสนเข็ญในการเฟ้นหาสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งและเอนเอียงไปทางอนุรักษนิยมให้สนับสนุนเขาในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในสภานิติบัญญัติภายในเดือนสิงหาคม
เมื่อวันอังคาร นายปิตาพยายามตัดสิทธิ์เขาเนื่องจากปัญหาการถือครองหุ้น โดยยืนยันว่าเขาไม่ได้ละเมิดกฎใดๆ และคู่แข่งตั้งใจที่จะกีดกันเขาออกจากตำแหน่งสูงสุด
สหรัฐฯ พยายามที่จะเพิ่มความสัมพันธ์กับพันธมิตรและพันธมิตรทั่วเอเชียที่ต่อต้านการขยายอำนาจของจีน และแคมป์เบลล์กล่าวว่าวอชิงตันต้องการรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แน่นแฟ้นกับไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคนี้
“มีบริษัทหลายแห่งลงทุนที่นั่น เรามีโครงการทางทหารที่แข็งแกร่งและมีส่วนร่วมกับกองทัพไทย” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว
“ผมคิดว่ามันปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองไทยไม่มั่นคงและซับซ้อน” เขากล่าว และเสริมว่า “ผมคิดว่าเป้าหมายของเราคือการสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ ในประเทศไทย จากนั้นจึงทำงานตามนั้น”