พรรคเสรีรวมไทยซึ่งเป็นฝ่ายค้านเมื่อวันจันทร์ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (EC) ให้สอบสวน 7 ฝ่ายฐานกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายย่อยได้รับเงินใต้โต๊ะเพื่อแลกกับการสนับสนุนของรัฐบาล
การเรียกร้องดังกล่าวได้รับความสนใจจากสาธารณชนหลังจากใบเสร็จรับเงินการโอน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนได้รับ “เงินช่วยเหลือ” สูงถึง 100,000 บาทต่อเดือน กลายเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เสรีรวมไทย หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ฝ่ายที่ได้รับประโยชน์จากการจ่ายเงินดังกล่าวได้ละเมิดมาตรา 28 และ 29 ของพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ซึ่งอาจส่งผลให้มีการยุบพรรคการเมือง มาตรา 28 ห้ามพรรคการเมืองปล่อยให้บุคคลภายนอกควบคุม โน้มน้าว หรือชี้นำกิจกรรมของตนในลักษณะที่กระทบต่อความเป็นอิสระของพรรคและสมาชิกพรรค มาตรา 29 ห้ามมิให้สมาชิกพรรคการเมืองครอบงำ มีอิทธิพล หรือกำกับดูแลกิจการของพรรคทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อจำกัดเสรีภาพของสมาชิกพรรค
พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์กล่าวว่าความคิดเห็นของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเขายอมรับการจ่ายเงิน เมื่อรวมกับใบถ่ายโอนไวรัสแล้ว ก็มีเหตุผลเพียงพอสำหรับ EC ที่จะเริ่มการสอบสวน เขากล่าว เขาเสริมว่าอีกฝ่ายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินลับซึ่งเชื่อว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ (PPRP) ควรได้รับการสอบสวนด้วย
สมชาย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทยและอดีตสมาชิก EC กล่าวว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว และ กกต. ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว เขากล่าวว่าหาก กกต.พบหลักฐานว่าคู่กรณีละเมิดกฎหมาย จะส่งคดีไปยังศาลรัฐธรรมนูญซึ่งจะวินิจฉัยเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด 15 วันหลังจากรับคดี นายสมชายกล่าวว่าเขาหวังว่า กกต. จะจัดการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ในขณะเดียวกันก็เรียกกรณีนี้ว่าเป็นโอกาสให้หน่วยงานสำรวจความคิดเห็นฟื้นความน่าเชื่อถือและศักดิ์ศรี
ข้อกล่าวหาดังกล่าวจัดทำโดยนายธมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคไทย เศรษฐกิจ ก่อนการอภิปรายวิจารณ์เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่เขารู้ว่าพรรคเล็ก ๆ จะลงคะแนนเสียงให้นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ขณะที่ กัปตัน ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค ปชป. ได้รับมอบหมายให้ประสานงานกับฝ่ายเล็กๆ
หลังจากที่เขาถูกไล่ออกจากพรรค เขาได้เข้าร่วมกับเศรษฐกิจไทย ซึ่งได้ถอนการสนับสนุนจากพรรคร่วมในทันทีก่อนการลงมติตำหนิ