“ภราดร” หวั่น “คัลแมกี“ อาจกระทบภาคเหนือตอนล่าง ชี้ระดับน้ำสูงสุดวันที่ 10 พ.ย.นี้ กำชับกรมชลประทาน คุมเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำไม่เกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที
วันที่ 4 พ.ย.2568 นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมรับมือพายุคัลแมกี ว่า ได้นำข้อสั่งการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยถึงพายุคัลแมกี ให้ทุกหน่วยงานที่เข้าประชุมรับทราบ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ โดยมีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าร่วมประชุมรับฟัง
ห่วงลุ่มน้ำเจ้าพระยา
โดยพายุคัลแมกี จะเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงวันที่ 7-8 พฤศจิกายนนี้ จากการประเมินของกรมอุตุนิยมวิทยา สทนช. และกรมชลประทาน คาดว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้มาก เพราะมีพื้นที่รับน้ำอยู่พอสมควร ส่วนหลังจากนี้พายุจะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณจังหวัดสุโขทัย นครสวรรค์ กำแพงเพชร ยอมรับว่าบริเวณพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามีความน่าเป็นห่วง เนื่องจากสถานการณ์น้ำขณะนี้ยังคงมีระดับน้ำสูงจากอิทธิพลพายุ 6 ลูกที่ผ่านมา
คาดระดับน้ำเจ้าพระยาสูงสุด 10 พ.ย.นี้
นายภราดร บอกด้วยว่า ทางกรมชลประทาน ระบายน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และพยายามควบคุมการระบายน้ำให้คงอยู่ในระดับ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีโอกาสจะเพิ่มไปถึง 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในกรณีที่ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มมากขึ้น และจะพยายามควบคุมไม่ให้เกินตัวเลขนี้ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำให้ระบายออกพื้นที่ด้านข้าง แต่ต้องเน้นย้ำไม่ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รับน้ำได้รับผลกระทบ เพราะมีการคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงสุดในช่วงวันที่ 10 พฤศจิกายน
ลุ้นระบายน้ำไม่กระทบ กทม.
ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครจะได้รับผลกระทบหรือไม่ นายภราดร บอกว่า หากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำไม่เกิน 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรุงเทพฯ น่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่จะได้รับผลกระทบเมื่อเขื่อนเจ้าพระยาจะต้องระบายน้ำอยู่ที่ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนบริเวณพื้นที่ภาคกลางตอนล่างก็จะไม่ได้รับผลกระทบ หากสามารถควบคุมการระบายน้ำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากพายุลูกนี้แล้วจะมีพายุลูกอื่นตามมาอีกหรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ระบุว่า ตอนนี้มีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมเข้ามาที่ประเทศไทย ซึ่งหลังจากหมดพายุลูกนี้ พื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่มีฝนแล้วแต่จะเป็นพื้นที่ภาคใต้ที่จะได้รับผลกระทบ แต่ได้มีการกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือแล้ว
หารถยกสูงพาคน กทม. กลับบ้าน
ต่อข้อถามที่ว่า ได้ประสานกับสำนักระบายน้ำกรุงเทพมหานครอย่างไรบ้าง นายภราดร บอกว่า กรุงเทพมหานครมีการบริหารจัดการอยู่ ซึ่งต้องยอมรับว่าในพื้นที่กรุงเทพมีลักษณะเป็นน้ำรอระบายอยู่บนผิวถนน แตกต่างจากพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนจะมีแนวทางการช่วยเหลือหรือให้กรุงเทพมหานครจัดเตรียมรถยกสูงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหรือไม่ นายภราดร บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีและจะรับเรื่องไปปรึกษากับกรุงเทพมหานคร และ ปภ.ต่อไป
ครม.อนุมัติ 6 พันล้านช่วยน้ำท่วม
ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยก่อนหน้านี้ นายภราดร ระบุว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท ให้กับประชาชนที่เดือดร้อนกว่า 600,000 หลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เร่งรัดจ่ายเงินเยียวยาในส่วนนี้ ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยมากกว่า 30 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน และนานเกิน 60 วัน รัฐบาลกำลังหาแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา
