ส.อ.ท. กล่าวว่า การผลิตรถยนต์ของไทยน่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1.8 ล้านคันในปีนี้ เนื่องจากปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกที่ยืดเยื้อ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าว
ก่อนหน้านี้ คาดว่าไทยจะผลิตรถเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน ส่วนที่เหลืออีก 800,000 คันสำหรับตลาดในประเทศ แต่ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยอดผลิตทั้งหมดในปีนี้อาจลดลงเหลือ 1.7 ล้านคัน” สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงศ์ รองประธานและโฆษกของ สโมสรยานยนต์ของ FTI
“เอฟทีไอกำลังหารือกับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกเกี่ยวกับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ใหม่ เราคาดว่าจะปรับลดเป้าหมายอย่างเป็นทางการในเดือนหน้า” เขากล่าว
การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องเปลี่ยนแผนการผลิตโดยระงับการผลิตรถยนต์บางรุ่นชั่วคราวและส่งมอบให้ผู้ซื้อล่าช้า
นอกจากปัญหาการขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์แล้ว ยังเกรงว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่นๆ จะส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ในปีนี้ด้วย
จีนยังคงใช้นโยบายปลอดโควิดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส
การดำเนินการนี้จะนำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในเมืองสำคัญต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกในที่สุด
สงครามรัสเซีย-ยูเครนซึ่งปะทุขึ้นเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ไม่มีวี่แววว่าจะยุติลง ความขัดแย้งดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการรักษาราคาน้ำมันโลกให้อยู่ในระดับสูง ซึ่งทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
มีความกลัวว่าความพยายามของธนาคารกลางในการลดอัตราเงินเฟ้อจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
จากข้อมูลของ FTI การผลิตรถยนต์ของไทยในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 6.53% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 143,016 คัน ตั้งแต่มกราคมถึงมิถุนายน การผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 3.02% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 870,109 คัน
อย่างไรก็ตาม การผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกในเดือนมิถุนายนลดลง 4.79% มาอยู่ที่ 71,002 คัน ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ การผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกลดลง 8.98% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ 442,578 คัน
ในเดือนมิถุนายน การผลิตรถยนต์สำหรับตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 72,014 คัน ในขณะที่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 การผลิตรถยนต์สำหรับตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 427,533 คัน