“รัดเกล้า” รองโฆษกรัฐบาล ชวนประชาชนแสดงความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.รับรองเพศ ซึ่งจะเปิดรับฟังความเห็นวันนี้เป็นวันสุดท้าย พร้อมเผยร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม อยู่ในชั้น กมธ.วุติสภา ตั้งเป้าดันสู่ วาระ 2-3 ต้น ก.ค.นี้
วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญชวนประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ ร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ พ.ศ. …. โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน โดยจะสิ้นสุดในวันนี้ (6 พฤษภาคม 2567)
เนื่องด้วยพระราชบัญญัติหลักกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 มาตรา 5 วรรค 3 กำหนดให้ก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับ หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมทั้งเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์นั้นแก่ประชาชน และนำผลนั้นมาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน ส่วนมาตรา 13 กำหนดให้ หน่วยงานของรัฐดำเนินการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบกลาง และจะใช้วิธีการอย่างหนึ่งหรือหลายวิธีด้วยก็ได้
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายดังกล่าว กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงประกาศการรับฟังความคิดเห็นว่างพระบัญญัติการรับรองเพศ พ.ศ. …. ได้แก่ ประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ผู้เชี่ยวชาญ นักกฎหมาย นักวิชาการ และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกขน ภาคประชาสังคม สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านระบบกลางทางกฎหมาย หรือผ่าน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ในวันนี้เป็นวันสุดท้าย เพื่อให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ได้รวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวประกอบการวิเคราะห์ผลกระทบและการจัดทำร่างกฎหมายต่อไป
“อยากเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพื่อที่หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบดูแลตรงนี้ สามารถนำผลไปดำเนินการเสริมหรือเพิ่มเติมต่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ให้มีความครอบคลุม ครบถ้วน สามารถสร้างประโยชน์และความเท่าเทียมต่อประชาชนทุกคนได้จริง ส่วนความคืบหน้าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของชั้นกรรมาธิการของวุฒิสภา การพิจารณายังคงเป็นไปอย่างเข้มข้นและถี่ถ้วน คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกถึง 2 สัปดาห์กว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ คณะฯ ตั้งเป้าให้เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในการประชุมวุฒิสภา ต้นกรกฎาคมนี้”