“เนติบริกร” ฉายานี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ
ก็ขนาดขึ้นป้าย “ล้างมือในอ่างทองคำ” ก็ยังมีคนไปกดกริ่งหน้าประตู แถมเป็นคิวของวีไอพีระดับผู้นำอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่บุกไปขอใช้บริการนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ มือกระบี่ เซียนกฎหมายเบอร์ต้นๆของประเทศไทย
หามขึ้นเกี้ยว แต่งตั้งให้เป็นกุนซือกฎหมาย ที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการ ครม.
รับบท “ทนายแก้ต่าง” ในคดีที่นายกฯถูกตั้งข้อหาหนักๆ กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ผิดจริยธรรมร้ายแรง
เก้าอี้ผู้นำแขวนต่องแต่งอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ จากการดื้อแพ่ง แต่งตั้ง “ทนายถุงขนม 2 ล้าน” อย่างนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักฯ ทั้งๆที่เคย “ติดคุก” ถูกศาลฎีกา สั่งขังโดยไม่รอลงอาญา
นาทีนี้ก็ต้องมือชั้นซือแป๋อย่างนายวิษณุเท่านั้น ถึงจะลุ้นแก้บ่วงได้
แต่ปัญหามันอยู่ที่สังขาร แบบที่คนวงในรู้ดีว่า อาการป่วยของนายวิษณุ ต้องเข้าออกโรงพยาบาล “ฟอกไต” อยู่เป็นประจำ
พลังความเข้มขลังย่อมลดน้อยถอยลงตามวัยโรยรา
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTPF04rd03sUdGAyXSBwv8OvT74hK.jpg)
แถมยังต้องมาโรมรันพันตูกับศึก “มังกรซ่อนพยัคฆ์” ปฏิบัติการหักเหลี่ยมเฉือนคม ท่ามกลางฉากอึมครึมคลุมเครือ ไม่ชัดว่า ใครเป็นผู้กำหนดเกม
“ตัวจริง” ที่แฝงตัวอยู่หลังฉากยังเป็นปริศนา
เบื้องลึกเบื้องหลัง “ปฏิบัติการลับ” แบบที่นายสมชาย แสวงการ แกนนำกลุ่ม 40 สว. เปิดแผน ตรวจทานสำนวนร้องเรียนศาลรัฐธรรมนูญกันถึง 14 รอบ เดินเกมเงียบเชียบ
แต่รวดเร็วปานสายฟ้า หนีสายโทรศัพท์ล็อบบี้ให้ สว.ถอนชื่อกันจ้าละหวั่น
และเมื่อเปิดโพยมาในบรรดา 40 สว.หัวหมู่ทะลวงฟัน มีครบสายลุง 2 ป. โดยเฉพาะ 23 คนที่เคยโหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯอีกต่างหาก
ลาก “เศรษฐา” เข้า “คิลลิ่งโซน” ไปแล้วค่อนตัว
อารมณ์แบบที่ผู้นำมือใหม่ยอมรับเต็มปากเต็มคำเลยว่า “หนักใจ”
เรื่องของเรื่อง ชนวนเหตุไม่ได้อยู่ที่ตัว “นายกฯในตำแหน่ง” แต่ต้นตอล่อเชื้อไฟไหม้ลามมันอยู่ที่ “อำนาจซับซ้อน” สภาพ “พลังจันทร์ส่องหล้า” ที่ทาบทับทำเนียบรัฐบาล รัศมีบดบังกันจนมิด
“นายกฯในตำนาน” อวดศักดา โชว์ปาฏิหาริย์ไม่แผ่ว
แนวโน้มพรรคเพื่อไทยเป็นหัวขบวน ไม่ว่าใครเป็น “นายกฯในตำแหน่ง” ก็หนีไม่พ้นโดนลากเข้าแง่งแหลมๆคมๆ สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ท้าทายรัฐธรรมนูญ
เมื่อ“เถ้าแก่ใหญ่” ยังฮึกเหิมเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ“ดีเอ็นเอ” อย่าง“อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมสืบทอดกิจการยี่ห้อ “ทักษิณ ชินวัตร”
ตามอาการรุก “กินรวบ” ในทีมรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้วสูตรพิสดาร เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ จากที่แชร์เริ่มไม่แบ่ง แย่งชิ้นปลามัน ถึงจุดผลประโยชน์ขัดกัน
ณ จุดที่ “เถ้าแก่ใหญ่” ถือธงนำขบวนอนุรักษ์นิยม คะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยราด ยังไม่เห็นวี่แวว แนวโน้มจะเบรกสกัดความร้อนแรงของกองทัพส้มได้อย่างที่เคลม “ตีกินบุญเก่า”
มันจึงต้อง “จูน” อำนาจ “เขย่าดีลลังกาวี” กันใหม่อีก
ภายใต้ไฟต์บังคับ “ขบวนการอนุรักษ์นิยม” ตบจูบเลือดกบปาก แต่ก็ต้องกอดคอประคองกันสู้ความร้อนแรงของเด็กรุ่นใหม่ “พลังเสรีนิยม”
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTPF04rd03sUdGBf2j2YkDuUlOkVo.jpg)
อารมณ์แบบที่ “เดอะต๋อม” นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศชัดถ้อยชัดคำ ถึงจะมีเหตุปรับนายกฯ เปลี่ยนกระดานรัฐบาล
พรรคก้าวไกลก็จะไม่หันหลังกลับไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน
กองทัพส้มไม่มีท่าทียึกๆยักๆ แม้แต่ลูกกั๊กให้เสียอารมณ์แนวร่วม ตามสถานการณ์ของ “ว่าวติดลมบน”
ตอกย้ำด้วยตัวเลขมาตรฐาน สดๆร้อนๆ “โพลสถาบันพระปกเกล้า” ออกมาไม่ต่างจาก “นิด้าโพล”
สะท้อนคะแนนนิยมพรรคก้าวไกล “แต้มบุญ” ของ “หนุ่มทิม” นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขวัญใจด้อมส้ม หากเลือกตั้งวันนี้ แนวโน้มกองทัพส้มเหมาหมด
กวาด สส.ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ ขึ้นหลัก 208 ที่นั่ง
นั่นหมายถึงห่างจากตัวเลข 250 เสียง กึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร 500 คน อีกแค่คืบ พรรคก้าวไกลจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ยึดเก้าอี้นายกฯได้โดยไม่ต้องพึ่งใครมาช่วยกดปุ่มเห็นชอบ
คำตอบของขบวนการอนุรักษ์นิยม ต้องกอดคอสู้ หนีตายหมู่.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม