“สมศักดิ์” กดปุ่มจ่ายค่าป่วยการ อสม.-ตกเบิก รวม 8,000 บาท เตรียมทำ พ.ร.บ.อสม. เพื่อความยั่งยืน พร้อมยกระดับเป็นผู้ช่วยพยาบาล คาด 1 ปี ทำกฎหมายเสร็จ เผย 17 พ.ค.นี้ เปิดฟังความเห็นปมยาบ้าในเว็บไซต์ ย้ำ 1 เม็ด ก็มีความผิด-ยึดทรัพย์
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 67 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าว “การยกระดับค่าป่วยการ สู่ SMART อสม.” โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายไพศาล หงส์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวง และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าร่วม
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3VFlu5rA9q7mubCQ0PtglhX25p.jpg)
นพ.โอภาส กล่าวรายงานว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ถือเป็นกลไกภาคประชาชนที่สำคัญของระบบการสาธารณสุขไทย ดำเนินการเคียงคู่กับกระทรวงสาธารณสุขมาเกือบ 50 ปี ด้วยแนวคิดที่มุ่งหวังจะแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานอย่างครอบคลุม ทั่วถึงตามหลัก Universal Health Coverage ซึ่งลำพังเพียงบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขอาจจะไม่เพียงพอ จึงถือกำเนิด อสม. ขึ้นในปี 2521 จนถึงปัจจุบันมี อสม. จำนวนกว่า 1,070,000 คน ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับให้ อสม. ทุกคน เป็น “Smart อสม.” โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับ อสม. ผ่านการใช้แอปพลิเคชัน Smart อสม. ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยให้ อสม. สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว รับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที และรายงานผลการให้บริการสุขภาพขั้นพื้นฐานในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3VFlu5rA9q7maqMKNYz6YPRncD.jpg)
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทย เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะกลไกของพี่น้อง อสม. หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวนกว่า 1,070,000 คน เป็นกำลังสำคัญเข้ามามีส่วนร่วม ช่วยเหลือประชาชนให้มีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งเมื่อรัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ามาทำหน้าที่ ก็มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพ มีความยั่งยืน โดยปี 2552 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการส่งเสริม อสม. เชิงรุก โดยสนับสนุนเงินค่าป่วยการ สำหรับ อสม. คนละ 600 บาทต่อเดือน เพื่อส่งเสริมบทบาทการทำงานของ อสม.
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3VFlu5rA9q7mwBHrKKJdWshPhv.jpg)
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาในปี 2561 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เพิ่มค่าป่วยการ อสม. ในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเดือนละ 1,000 บาทต่อคน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในขณะนั้น และในปี 2567 อสม. มีภาระงานที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การดูแลคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ การติดตามหญิงตั้งครรภ์เข้าถึงยาเม็ดเสริมไอโอดีน และการติดตามผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดในชุมชน เป็นต้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบให้เพิ่มเงินค่าป่วยการให้กับ อสม. เป็น 2,000 บาท เพื่อส่งเสริมสนับสนุนบทบาทของ อสม. ในการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิขั้นพื้นฐานในชุมชน รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ อสม. ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ
“วันนี้ อสม. ที่ปฏิบัติงาน ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2566-มีนาคม 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน จะได้รับโอนเงินค่าป่วยการตกเบิก เข้าบัญชีธนาคารของพี่น้อง อสม. จำนวน 6,000 บาท และได้รับโอนเงินค่าป่วยการสำหรับเดือนเมษายน 2567 อีก 2,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 8,000 บาท และในเดือนต่อไปๆ อสม. ก็จะได้รับคนละ 2,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายยกระดับ อสม. รวมถึงการพัฒนาระบบอาสาสมัครสาธารณสุขให้มีความยั่งยืน โดยการออกพระราชบัญญัติ อสม. เพื่อรับรองสถานภาพการพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ของพี่น้อง อสม. ให้มีความเหมาะสม พร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพของชุมชน และหนุนเสริมนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” รมว.สาธารณสุข กล่าว
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajTQ3VFlu5rA9q7m3Dz8UiD9Y3wvsI.jpg)
นอกจากนี้ ภายหลังแถลงข่าว นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้มาแจ้งข่าวดีให้กับพี่น้อง อสม. ทั่วประเทศว่า จะได้รับค่าป่วยการพร้อมเงินตกเบิกรวม 8,000 บาท ซึ่งตนต้องขอขอบคุณ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ดำเนินการตั้งงบประมาณช่วยเหลือ อสม. มาอย่างต่อเนื่อง เพราะหากไม่ตั้งงบประมาณให้ก็จะไม่ได้ ดังนั้นตนจึงคิดแนวทางสร้างความมั่นคงให้กับ อสม. ด้วยการเสนอ พ.ร.บ.อสม. เพื่อทำให้เกิดความยั่งยืน พร้อมวางแนวทางการยกระดับอัปเกรด อสม. ที่มีความเหมาะสม ให้สามารถเป็นผู้ช่วยพยาบาลได้ โดยตนคาดว่าจะใช้ระยะเวลาทำกฎหมายประมาณ 1 ปีงบประมาณ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหายาบ้า นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันที่ 17 พ.ค.นี้ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์แล้ว และจะนำความคิดเห็นมาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งตนขอเน้นย้ำว่า 1 เม็ด ก็มีความผิด และจะถูกขยายผลยึดอายัดทรัพย์ด้วย ดังนั้น ตนขอฝาก อสม. ที่มีทั่วประเทศ ช่วยกันเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแส เพื่อรับรางวัลนำจับ 5% ด้วย