กรณีพิพาทระหว่างจตุพร พรหมพันธุ์และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้ร่วมอุดมการณ์การเมืองที่เคยเข้าคู่ เห็นจตุพรต้องมีณัฐวุฒิ เห็นณัฐวุฒิข้างกายต้องมีจตุพร ปัจจุบันกลายเป็นเดินคนละทาง หลายคนอาจยังไม่รู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัดว่าเหตุผลที่ทั้งคู่กลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันเป็นเพราะอะไร คุณจตุพรได้เปิดใจในรายการ Thairath Talk ไว้ดังนี้
Thairath Talk : คุณโกรธคุณณัฐวุฒิไหม
จตุพร : ผมไม่ได้มีความโกรธอะไรกับเขา
Thairath Talk : วันที่เขาแถลงข่าวลาออกจากพรรคเพื่อไทย ร้องไห้ผ่านสื่อ คุณจตุพรรู้สึกอย่างไร
จตุพร : วันนั้นผมสวนเขาว่า คุณต้องยืนขวาง ไม่ใช่ยืนส่ง ที่คุณพูดมันคือการยืนส่งให้พรรคข้ามขั้วนะ ความเป็นจริงคุณต้องยืนขวางสิ อย่าให้เกิด เพราะคุณเป็นคนหนึ่งที่ตามคนเสื้อแดงกลับบ้าน คุณรู้ว่าคนเสื้อแดงเขาตายเป็นร้อย บาดเจ็บสองพันคน และติดคุกอีกนับไม่ถ้วน การข้ามขั้วกันแบบนี้มันทำลายความรู้สึกคนเสื้อแดง
Thairath Talk : เขาร้องไห้ผ่านสื่อ เขาลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบนะ คุณจตุพรไม่คิดจะปลอบประโลมเขาหน่อยเหรอ
จตุพร : การพูดดูเสมือนร่ำไห้ แต่ศักยภาพของคุณมันมากกว่าการร่ำไห้
Thairath Talk : จะมีวันกลับมาคืนดีกันอีกไหม
จตุพร : โดยส่วนตัวไม่มีอะไร เจอหน้ายังพูดคุยกันได้ปกติ ความเป็นพี่เป็นน้องยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่จุดยืนทางการเมืองไม่เหมือนกัน เรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรือถูก ต่างคนเดินตามความเชื่อของตัวเอง เดิมเราจับมือกันก็เป็นคู่ที่คนกลัวทั้งสังคม เพราะเราครบเครื่องกันหมด เพียงแต่ความกลัวนั้นไม่ใช่แค่ให้ศัตรูกลัว ฝ่ายมิตรก็กลัวตามศัตรู
เพราะฉะนั้นก็เป็นความประสงค์ที่เขาแยกเราได้สำเร็จ
Thairath Talk : มีไอ้โม่งที่พยายามแยกคุณทั้งสองคนออกจากกันจริงหรือ
จตุพร : พยายามมาตั้งนานแล้ว แล้วจังหวะที่ผมไปติดคุกปี 2562 และมีการบอกข้อมูลทั้งผมและณัฐวุฒิไปคนละทิศละทาง เข้าใจไปคนละทิศคนละทาง ผมได้ฟังแค่คำบอกเล่าไงเพราะผมโดนจองจำอยู่ เรื่องมันเลยเป็นแบบนี้ไง