โฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ผลักดันกฎหมายเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกจ้าง 11 เรื่อง ลั่น ตระหนักดีทุกคนคือกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ
วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับแรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นอีกกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มุ่งผลักดันมาตรการ ส่งเสริมแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามกฎหมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยในปัจจุบัน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน ได้ผลักดันการออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ.2567) ตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 30 เมษายน 2567 มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการคุ้มครองให้กับลูกจ้างซึ่งทำงานบ้าน 11 เรื่อง ได้แก่
1. มีเวลาทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
2. มีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง
3. มีสิทธิลากิจธุระอันจำเป็น
4. ห้ามลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานเวลา 22.00–06.00 น. ทำล่วงเวลา หรือวันหยุด
5. ลูกจ้างหญิงลาคลอดได้ 98 วัน
6. ห้ามเลิกจ้างเพราะเหตุมีครรภ์
7. ให้นายจ้างแจ้งการใช้แรงงานเด็ก
8. ลูกจ้างเด็กมีสิทธิฝึกอบรมโดยได้รับค่าจ้าง 30 วัน
9. ลูกจ้างหญิงได้รับค่าจ้างลาคลอด 45 วัน
10. ห้ามนายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
11. ลูกจ้างได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
โฆษกรัฐบาล ระบุในช่วงท้ายว่า “รัฐบาลมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานในทุกภาคส่วน ให้แรงงานทุกกลุ่มได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมและสอดคล้องตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งสนับสนุนให้กฎ ระเบียบ ช่วยดูแลคุ้มครองแรงงานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ด้วยตระหนักดีว่าแรงงานทุกคนคือกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ”