“ไชยา พรหมา” ตอบแล้ว ไม่เข้าร่วมกิจกรรมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เพราะไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง ปัดมีนัย ลั่นไม่น้อยใจถูกปรับออกจาก ครม. แค่เสียดาย รับไม่มีกลุ่มทุนหนุน ยืนกรานเรื่องเกษตรกรต้องพรรคดู
วันที่ 4 พ.ค. 2567 นายไชยา พรหมา อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ สส.หนองบัวลำภู ให้สัมภาษณ์กรณี ไม่เข้าร่วมกิจกรรม “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” ของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้ตนกำลังเป็นประเด็นที่สื่อจับจ้องหลังถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี จึงไม่อยากให้เป็นประเด็นทางการเมือง เพราะเมื่อสื่อถามไม่ว่าตนจะตอบคำถามแบบไหนก็มีผลกระทบ จึงอยากหลีกเลี่ยงตอบคำถาม อยากให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลได้เดินหน้าทำงานต่อไป ไม่อยากให้ตนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง ไม่มีนัยอะไรทั้งสิ้น หลังจากนี้ตนจะทำหน้าที่สมาชิกพรรคที่เป็นสส.ในสภาฯ ก็จะขับเคลื่อนงานช่วยประชาชนต่อไป และยังตั้งใจว่าอะไรเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกษตรกรภาคอีสาน ก็จะเป็นภาระหน้าที่รับผิดชอบ ในส่วนงานที่มีประสบการณ์ ก็จะเป็นปากเป็นเสียงเสนอแนวทางแก้ไขต่อไปตามบทบาทหน้าที่สส. และยืนหยัดว่าปัญหาภาคการเกษตรในพื้นที่อีสาน เป็นปัญหาที่เป็นผลกระทบกับฐานเสียงพรรคเพื่อไทย ไม่อยากให้พรรคฝากอนาคตการแก้ปัญหาดังกล่าวกับพรรคการเมืองอื่นแม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม เพราะตอนเราหาเสียงเราได้สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร เป็นหน้าที่ที่พรรคเพื่อไทยต้องรับผิดชอบให้เป็นไปตามนโยบาย เพราะพื้นที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทย จึงจำเป็นต้องรักษาฐานเสียงของพรรคในภาคอีสาน ซึ่งกระทรวงเกษตรจะเป็นส่วนสำคัญ
เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่ถูกปรับออก นายไชยา กล่าวว่า ไม่น้อยใจแต่เสียดายโอกาสในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนเหตุผลที่ถูกปรับออกอาจเป็นเพราะตนไม่มีการสนับสนุนด้านกลุ่มทุนในพรรค มีเพียงเสียงสนับสนุนจากคนในพื้นที่ จึงเป็นเหตุผลง่ายที่สุดที่จะถูกปรับออก แต่ถึงอย่างไรก็ฝากให้รัฐมนตรีที่เข้าไปใหม่ให้ดูแลพี่น้องประชาชนที่เป็นฐานเสียงอันสำคัญกับพรรคเพื่อไทย ในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่จะต้องสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น และสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าคนอีสานมีงานทำมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็จะลดการอพยพแรงงานเข้าสู่เมืองหลวง เป็นการสร้างสังคมในพื้นที่ให้ยั่งยืนต่อไป