เผยแพร่ : 22 ก.ค. 2565 เวลา 04:00 น.
แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง Hurts Like Hell ได้ระบายความเจ็บปวดด้วยเรื่องราวเบื้องหลังโลกมวยไทยสำหรับผู้ชม Netflix ในกว่า 190 ประเทศ ซีรีส์ลิมิเต็ดซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่ทะยานขึ้นสู่อันดับท็อป 10 ของ Netflix ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับคำชมอย่างล้นหลามในฐานะรายการทีวีของ Netflix ที่คุ้มค่าแก่การรับชมอีกด้วย
ผู้กำกับกิตติชัย วันประเสริฐ และโปรดิวเซอร์ พัฒนา จันทร์เจริญสุข เปิดเผยความคิดเบื้องหลังซีรีส์เรื่องนี้
ทำไมต้องมวยไทย?
“เราได้ไอเดียมาจากหนิง [Pattana] เนื่องจากครอบครัวของเขาเคยเป็นเจ้าของค่ายมวย กิตติชัยกล่าว
“หลังจากกำหนดทิศทางแล้ว เราใช้เวลาหนึ่งปีในการทำวิจัยกับผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง และทำความคุ้นเคยกับโลกนี้ เราลงเอยด้วยการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 40 คนก่อนที่จะเริ่มการผลิตในส่วนการสัมภาษณ์ในซีรีส์”
ทีมงานฝ่ายผลิตในที่ทำงาน
สหภาพทหารผ่านศึกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วโดยไม่คาดคิด
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในภารกิจของรายการในการดึงดูดใจผู้ชมคือการมีนักแสดงที่เหมาะสมที่สามารถทำให้ตัวละครของพวกเขามีชีวิต เจ็บเหมือนนรก เกินความคาดหมายด้วยการนำทหารผ่านศึกอย่าง วิทยา ปานศรีอารมย์ นพชัย ชัยนามะ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ และ ศุภกร กิจสุวรรณ ร่วมกับดาราดาวรุ่ง ณัฐ กิจจริต แต่ละคนแสดงให้เห็นถึงชีวิตที่หลากหลายรอบเวทีมวยในตำนาน
“เราพิจารณาบทบาทเป็นอันดับแรกในกระบวนการคัดเลือก โดยแต่ละบทบาทที่เขียนออกมา เราจะพยายามดูว่าใบหน้าที่เราคิดว่าใครจะเติมเต็มบทบาทเหล่านี้ได้ และนั่นทำให้เราตั้งชื่อว่าปู [Vithaya]ปีเตอร์ [Nopachai] และเอก [Thaneth] เป็นตัวเลือกการหล่อในอุดมคติของเรา ตอนแรกเราพยายามคัดเลือกนักแสดงที่คล้ายกับพวกเขา แต่ไม่พบใครเลย เราจึงรวบรวมความกล้าที่จะยื่นมือไปหาปูเอง และเขาอยากจะเข้าร่วมทันทีหลังจากอ่านบทนี้ ช่วงเวลานั้นเปลี่ยนความคิดของทีมแคสติ้ง และเราลงเอยด้วยการมีทุกคนที่เราต้องการขึ้นเครื่อง” พัฒนาเปิดเผย
สไตล์การเล่าเรื่องที่โดดเด่น
“มันเป็นความคิดของกิตติชัยเพราะเขาต้องการเน้นการกระทำและเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวในแต่ละตอน เมื่อคุณได้ดูทั้งสี่ตอนแล้ว ที่เซอร์ไพรส์ก็คือรายการกำลังบอกเล่าเรื่องราวคู่ขนานหรือทับซ้อนกันซึ่งท้ายที่สุดแล้วมารวมกันเป็นภาพรวมที่ชัดเจนและใหญ่ขึ้น ” พัฒนาอธิบาย