หน่วยงานเตรียมสรุป FTA กับ EFTA
เผยแพร่ : 4 ก.ค. 2567 เวลา 08:26 น.
![นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิ์กุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ](https://static.bangkokpost.com/media/content/20240704/c1_2822943_240704082929.jpg)
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิ์กุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กรมเจรจาการค้าได้วางโครงร่างสำหรับครึ่งปีหลังของปี 2567 โดยมุ่งหวังที่จะสรุปการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (Efta) ภายในสิ้นปีนี้ และเตรียมจัดการประชุมคณะกรรมการการค้าร่วม (JTC) กับสหราชอาณาจักรและสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) ในปีนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ FTA ในอนาคต
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิ์กุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้เริ่มมีแผนเร่งเจรจา FTA โดยไทย-เอฟทีเอ ถือเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
ไทยคาดว่าจะสามารถสรุปการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป และอาเซียน-แคนาดาที่กำลังดำเนินอยู่ได้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของภาคเอกชน ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าเจรจา FTA ใหม่กับเกาหลีใต้และภูฏาน เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน” เธอกล่าว
นางสาวโชติมา เปิดเผยว่า คาดว่าประเทศไทยจะสรุปการเจรจาข้อตกลง FTA ไทย-เอฟทีเอได้ภายในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการเจรจา FTA ครั้งแรกกับยุโรป
ข้อตกลงอีกฉบับถือเป็นการยกระดับ FTA ที่มีอยู่ในกรอบอาเซียนซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย เปรู ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนสำหรับธุรกิจไทย
ไทยมีเขตการค้าเสรี (FTA) จำนวน 14 ฉบับกับคู่ค้า 18 ราย และได้สรุปการเจรจา FTA กับศรีลังกาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 โดยคาดว่าความตกลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับในช่วงปลายปีนี้
เธอกล่าวว่ากรมมีแผนจะจัดการประชุม JTC ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ร่วมกับหุ้นส่วนการค้าที่สำคัญ เช่น มาเลเซีย บังกลาเทศ และจีน เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าและเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
แผนการดังกล่าวยังรวมถึงการประชุมกับสหราชอาณาจักรและ EAEU เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ FTA ในอนาคต
ตลอด 5 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณการค้าระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้า FTA 18 ประเทศ มีมูลค่า 146,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 70.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.4% ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 74.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.0%
สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันกลั่น เม็ดพลาสติก คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรและส่วนประกอบไฟฟ้า เครื่องจักรและส่วนประกอบกลไก ผลิตภัณฑ์เคมี เหล็กและเหล็กกล้า และวงจรไฟฟ้า