พระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองหลวงเก่า มีโบราณสถาน วัดวาอารามเก่าแก่ วัฒนธรรมประเพณีอันทรงคุณค่า เป็นจังหวัดที่มีต้นทุนดีในระดับต้นๆของประเทศ แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมากลับแทบไม่ได้มีการพัฒนาอะไรเลย การท่องเที่ยวที่น่าจะคึกคักจากกระแสกุ้งเผาและวัดวาโบราณสถานก็ไม่มีการพัฒนาต่อยอด นิคมอุตสาหกรรมก็เท่าเดิม ไม่ได้ขยายตัว ลูกหลานต้องดิ้นรนออกไปทำงานนอกพื้นที่มากขึ้น
ช่วงนี้กำลังมีการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโอกาสดีที่ชาวอยุธยาจะพิจารณาเลือกคนมีความรู้ความสามารถมาพลิกโฉมอยุธยาให้เฟื่องฟู
อยุธยาก็เหมือนกับนครสวรรค์ ปทุมธานี อ่างทอง ที่นายก อบจ. ลาออกก่อนครบวาระ แล้วมาลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.อีก แม้กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ แต่ผลที่ตามมาคือ สิ้นเปลืองงบประมาณจัดการเลือกตั้ง 30-40 ล้านบาท เพราะถ้านายก อบจ.อยู่จนครบวาระ จะมีการเลือกตั้งพร้อมกับ ส.อบจ. แต่พอนายก อบจ.ชิงลาออกก่อน ทำให้ต้องจัดการเลือกตั้ง 2 ครั้ง สูญงบฯ 40 ล้านบาทโดยใช่เหตุ
การเมืองยุคใหม่ไม่ว่าระดับชาติหรือระดับท้องถิ่นต้องคิดถึงประชาชนเป็นอันดับแรก ทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่แจกเงิน สู้กันด้วยนโยบาย และความมุ่งมั่นปฏิบัติจริง
วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมขอเล่าให้ฟังถึงนโยบายหาเสียงของ คุณวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ผู้สมัครเลือกตั้งนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา หมายเลข 1 ในนามกลุ่ม “ก้าวใหม่อยุธยา” ที่ยึดหลักการร่วมมือได้ทุกฝ่าย ทุกพรรค ทุกคน ร่วมสร้างสรรค์พัฒนาเมืองอยุธยาในมิติต่างๆ
นโยบายที่น่าสนใจ อาทิ ด้านการศึกษา จะสร้างโรงเรียนมาตรฐานระดับอินเตอร์ไปยังต่างอำเภอ เพื่อให้คนรวยคนจนมีโอกาสเรียนเท่าเทียมกัน เพราะถ้าคนจนลูกชาวบ้านไม่มีโอกาสเรียนโรงเรียนดีทันสมัย จะยิ่งหมดโอกาสก้าวต่อได้ไกล คุณวัชรพงศ์มั่นใจว่า อบจ.ทำโรงเรียนมาตรฐานสูงได้ โดยจะเอาต้นแบบจาก โรงเรียนมีชัยพัฒนา จ.บุรีรัมย์ ที่ คุณมีชัย วีระไวทยะ เป็นผู้ก่อตั้ง มีหลักสูตรสอนเด็กให้รู้จักคิด บริหารจัดการตัวเองได้
นโยบายด้านการดูแลผู้สูงอายุ จะสร้างศูนย์ผู้สูงวัยกระจายไปตามอำเภอต่างๆ ดูแลทั้งเรื่องอาหาร สุขภาพ อาชีพ เหมือนรัฐสวัสดิการในระดับท้องถิ่น ส่วนผู้สูงอายุที่ยังมีบ้านอยู่ จะมีพนักงานไปดูแลถึงบ้าน เป็นแบบ Home Care
นโยบายยกระดับพัฒนาการท่องเที่ยวมูลค่าสูง อยุธยามีนักท่องเที่ยวปีละ 7-10 ล้านคน เป็นต่างชาติแค่ล้านกว่าคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียงหมื่นกว่าล้านบาท ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับต้นทุนที่มี ทั้งโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ วัฒนธรรม อาหารอร่อย แม่น้ำลำคลอง ดังนั้นจะพัฒนาเมืองเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงด้วยการปลดล็อกผังเมืองให้สร้างบูติกโฮเทลระดับไม่เกิน 30 ห้อง ริมน้ำหรือโซนเมืองโดยควบคุมความสูงไม่ให้กระทบมรดกโลก และพัฒนาแอปพลิเคชันท่องเที่ยว ที่กิน ที่พัก ที่ขายของ จัดระบบคมนาคมสะดวก ประดับไฟสว่างทั่วเกาะเมือง ทำเส้นทางท่องเที่ยว 16 อำเภอ ถ้าทำได้ครบวงจร ตรึงนักท่องเที่ยวอยู่ 2-3 คืน จะสร้างรายได้เฉลี่ยหัวละ 15,000 บาท กระจายเงินลงสู่ฐานรากต่อเนื่องทุกปี
อยุธยามีนิคมอุตสาหกรรม 5 นิคม มีการเกษตรและท่องเที่ยวเป็นสินค้าหลัก ฉะนั้นต้องจัดงาน อยุธยาเอ็กซ์โป ดึงคนทั่วโลกมาชมสินค้าอยุธยา ดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามา
นโยบายหาเสียงเหมือนการขายฝัน ขึ้นอยู่กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะเชื่อมั่นแค่ไหน คุณวัชรพงศ์หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า “นายกอุ๊” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต.บ้านใหม่ ได้เข้าไป กวาดล้างทุจริต ทำให้ อบต.บ้านใหม่ จากที่เคยมีการทุจริตถึงขั้นไม่เหลือเงินเดือนจ่ายข้าราชการ พัฒนาขึ้นเป็น อบต.แถวหน้าของจังหวัด นายกอุ๊ยังมีผลงานโดดเด่นด้าน การพัฒนาชุมชน ช่วยพ่อค้าแม่ค้าสร้างรายได้เพิ่ม ปั้นผู้ประกอบการใหม่ ได้รับรางวัลระดับประเทศหลายรางวัล และได้ฉายาว่านายก อบต.ไฟสุ่มไก่ ที่นำไฟสุ่มไก่มาประดับสวยงามทั้งตำบล
การเมืองยุคใหม่สู้กันด้วยนโยบาย และผลงาน หมดยุคแจกเงินแล้วครับ.
ลมกรด
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม