ยอดการกู้ยืมบางส่วนเพื่อระดมทุนกระเป๋าเงินดิจิทัลพุ่งสูงถึง 1 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณ 2024

แบบจำลองของแจกกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลที่เป็นที่ถกเถียงกันเป็นหนึ่งในพิธีการที่ขายให้กับนักช้อปในเยาวราชซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองตรุษจีนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ (ภาพ: ณัฐวัฒน์ วิเชียรบุตร)

ครม.อนุมัติวงเงินกู้เพิ่มเติมปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 276,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินใช้รัฐบาลโดยตรง 269,000 ล้านบาท และเงินให้รัฐวิสาหกิจปรับโครงสร้างหนี้

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลให้ยอดการกู้ยืมใหม่ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางรัดเกล้า อินทวงษ์ สุวรรณคีรี กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร

รัฐมนตรียังอนุมัติข้อเสนอของกระทรวงการคลังในการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2567 อีกด้วย นางรัดเกล้า กล่าว

ภายหลังการปรับแล้ว คาดว่าอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จะอยู่ที่ 65.1% ซึ่งยังคงต่ำกว่าเพดานกรอบ 70% ของ GDP เธอกล่าวเสริม

อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP อยู่ที่ 64.3% ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจาก 63.8% ในเดือนก่อนหน้า

นายชัย วัชรมงคล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เงินกู้เพิ่มเติมดังกล่าวจะนำมาใช้ในการระดมทุนโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มในไตรมาสที่ 4 และมีงบประมาณ 5 แสนล้านบาท

การแจกเงินสดให้กับชาวไทย 50 ล้านคนเพื่อใช้จ่ายในเขตบ้านเกิดของพวกเขาถือเป็นหัวใจหลักของยุทธศาสตร์ของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ในการยกระดับเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยต่ำกว่า 2% ในทศวรรษที่ผ่านมา

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนักเศรษฐศาสตร์บางคนคัดค้านแผนดังกล่าวเนื่องจากอาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและผลกระทบทางการคลัง ธนาคารกลางแนะนำให้รัฐบาลจำกัดสิทธิประโยชน์ให้เฉพาะกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งคาดว่ามีจำนวนประมาณ 16 ล้านคน

คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนเพิ่มงบประมาณปีงบประมาณ 2567 อีก 122,000 ล้านบาท เพื่อช่วยระดมทุนในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมนี้

นางรัดเกล้า กล่าวว่า แผนหนี้สาธารณะที่ปรับปรุงใหม่นี้ รวมถึงการเพิ่มขึ้นสุทธิของการกู้ยืมใหม่ 276,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดรวมเป็น 1.03 ล้านล้านบาท

เธอกล่าวอีกว่า การปรับปรุงดังกล่าวรวมถึงการเพิ่มการกู้ยืมของการรถไฟแห่งประเทศไทย และแผนกู้เงินใหม่สำหรับรัฐวิสาหกิจ พร้อมทั้งกู้ยืมเพิ่มเติมจากแหล่งในประเทศอีก 3,470 ล้านบาท

เงินดังกล่าวจะนำไปใช้เพื่อการลงทุนในโครงการพัฒนารัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง” นางรัดเกล้า กล่าว

การกู้ยืมที่ได้รับการอนุมัติใหม่เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงแผนการจัดการหนี้สำหรับหนี้ที่มีอยู่และการชำระหนี้

แผนบริหารหนี้เดิมเพิ่มขึ้น 33,400 ล้านบาท จาก 2 ล้านล้านบาท เป็น 2.04 ล้านล้านบาท

การเพิ่มขึ้นดังกล่าวรวมถึงการเพิ่มขึ้นของการบริหารหนี้ในประเทศ 66,700 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ 2567 จำนวน 16,700 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ 2568 – 2571 จำนวน 50,000 ล้านบาท

ในทางกลับกันการบริหารหนี้ต่างประเทศจะลดลงประมาณ 26,000 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2567

แผนการชำระหนี้มียอดเพิ่มขึ้นสุทธิ 54,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดเดิมเป็น 454,000 ล้านบาท

แบ่งปัน.
Exit mobile version