ช้างศึกแห่งอนาคต (อันใกล้)

เสียดาย แต่ไม่เสียใจสักนิดเลยครับ!
เชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยส่วนใหญ่ คงรู้สึกอย่างเดียวกับผม เมื่อได้เห็นฟอร์มการเล่นของไอ้หนูนักเตะทีมชาติไทย ยู17
ในศึกลูกหนังชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (ASEAN U16 Boys’ Championship Indonesia 2024) ที่เพิ่งจบลงไปสดๆ ร้อนๆ ในคราวนี้
ซึ่งเด็กของเราจบด้วยตำแหน่ง “รองแชมป์” หลังนัดชิงชนะเลิศ ดวลจุดโทษพ่ายออสเตรเลีย ด้วยสกอร์รวม 8-9
โดยเวลาปกติ 90 นาที ทั้งสองทีมสู้กันได้สนุกสมศักดิ์ศรีคู่ชิง ก่อนเสมอกัน 1-1 ชนิดเล่นดีกันคนละครึ่ง
ต้องยอมรับว่าก่อนเดินทางมาแดนอิเหนา แข้งช้างศึกชุดนี้ ไม่ได้ถูกคาดหวังอะไรมากมายนัก
เพราะมีเวลาเตรียมทีมฝึกซ้อมกันไม่นาน และนี่ก็เป็นทัวร์นาเมนต์ระดับชาติรายการแรกในชีวิตของทุกคนด้วย
แถมรอบแบ่งกลุ่มเรายังถูกจับไปอยู่ “สายหิน” แข็งโป๊ก อีกต่างหาก
ขณะเดียวกันกับตำแหน่งกุนซือใหญ่ หลายคนก็ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวของ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ สักเท่าไร
หนำซำ้ยังดูแคลนเจ้าตัวอีกด้วยว่า มาคุมทีมชาติเยาวชนได้ เพราะเป็นโค้ชในคาถาของนายกสมาคมฯ
โดยลืมคิดไปว่า “เซอร์เด็จ”คนนี้นี่แหละ…
คือกุนซือโปรไลเซนส์มากประสบการณ์ ที่ผ่านการคุมสโมสรน้อยใหญ่ในไทยลีกมาแล้วอย่างโชกโชน
ที่สำคัญความเป็น “มาสเซอร์” ที่มีจิตวิญญาณการเป็น “ครูฟุตบอล” อย่างเต็มเปี่ยม
ถ้าว่ากันถึง คุณวุฒิ-วัยวุฒิ ชั่วโมงนี้…นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด กับการคุมทีมชาติชุดเด็กของบ้านเราในยุคปัจจุบัน
ซึ่งผลงาน 5 นัดไม่แพ้ใคร (ในเวลา) ตั้งแต่รอบแรกยันจนถึงรอบชิง สำหรับการคุมทัพช้างศึกเยาวชน ในเวทีอาเซียน
ก็คงเป็นคำตอบอย่างดี ถึงฝีไม้ลายมือที่ไม่เป็นสองรองใครในตองอู
ชนิดไม่ต้องอวดอ้างสรรพคุณใดๆ ให้เปลืองน้ำลาย
บอกตามตรงตั้งแต่เห็นทีมชาติชุดเด็กมาแล้วหลายต่อหลายรุ่นในช่วงสิบปีหลัง
ผมดูหลานๆ ชุดนี้เล่นแต่ละนัดแล้วมีความสุขชะมัด ทำให้หัวใจมันพองโต มีความหวังกับบอลไทยขึ้นมาอีกครัง
เพราะทรงบอลของพวกเขาแต่ละคนมันช่างดูดีมีอนาคต ที่ฉายแววโรจน์ออกมาอย่างชัดเจน
พ่วงด้วยคาแรกเตอร์ความเป็น ‘นักสู้ใจเกินร้อย’ ที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ในทุกนาทีที่อยู่ในสนาม
ไม่เสียแรงที่เด็กบางส่วน ผ่านการคัดเลือกมาจากโครงการ FAT Talent ID ที่มีโมเดลจากฟีฟ่าโดยตรง
ผสมกับความยอดเยี่ยมของผลผลิตจากอคาเดมี่ชั้นนำ อย่าง STB Academy ของเสี่ยวินิจ เลิศรัตนชัย
ที่ไปฝังตัวอยู่ในรั้วโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ถึง 9 คน เข้ามาเป็นแกนหลักของทีมชุดนี้ อย่างลงตัวที่สุด
โดยเฉพาะ 2 แข้งวอนเดอร์คิดส์ “เบอร์ 10” และ “เบอร์ 11” อย่าง “อชิ” ชัยวัฒน์ เงินมา กับ “ปั๊บ” ปรเมศ ละอองดี ดาวเตะหัวฟู
ที่โชว์คลาสบอลอันเหนือชั้น เข้าตากรรมการสุดๆ ในทุกแมตช์ที่ลงสนาม
รวมถึงดาวรุ่งสายเลือดใหม่คนอื่นๆ ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ที่เปล่งประกายความสามารถของตัวเองกันออกมาเกือบทั้งทีม
ต้องขอขอบคุณในความทุ่มเทของทีมสตาฟฟ์ ซึ่งนอกจาก “เซอร์เด็จ” แล้ว
ยังมี “เฮียรุท” อนุรุทธิ์ นาคาศัย ผู้จัดการทั่วไปที่ทำหน้าที่ดูแลทีมเป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับ “อาจารย์หรั่ง” ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิค ที่บินมาอยู่กับเด็กๆ ที่อินโดนีเซีย ตั้งแต่นัดแรกถึงนัดสุดท้าย
รวมทั้ง “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน สภาลูกหนังและโฆษกป้ายแดงของสมาคมฯ ซึ่งตามติดการเตรียมทีมของ แข้งช้างศึก 17 ปี อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
นอกจากนี้ ก็ต้องขอบคุณโค้ชคนเก่าอย่าง “โค้ชชุ่ม” ชยกร ถนัดเดินข่าว ที่ปลุกปั้นทีมชาติชุดนี้มาตั้งแต่เริ่มตั้งไข่
และที่ลืมไม่ได้ คือ ท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่เอาใจใส่เด็กชุดนี้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดเกมฟาดแข้งของทีมเยาวชนไทยมาให้แฟนบอลบ้านเราได้ดูกันทุกแมตช์
แถมเกมนัดชิงยังประสานกับทางรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน
ให้มีการยิงสด ผ่านฟรีทีวี ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง NBT2HD ให้ได้ดูกันทั่วประเทศอีกด้วย
เส้นทางสู่เป้าหมายสูงสุดใน ฟุตบอลโลก ยู17 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ ในปีหน้า 2025 เพิ่งเริ่มต้นขึ้นครับ
บันไดขั้นแรกในการประเดิมศึกอาเซียน ถือว่าเราสอบผ่านอย่างน่าชื่นชม
สำหรับโปรแกรมต่อไป คือ เกมชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ที่ชลบุรี ในเดือนตุลาคมนี้
โดย ไทย อยู่ร่วมสายกับ อินเดีย, บรูไน และ เติร์กเมนิกสถาน
ช่วยกันลุ้น ช่วยกันเชียร์ ช้างศึกจูเนียร์ลูกหลานของพวกเราให้เต็มที่
นี่คือ “ช้างศึกแห่งอนาคต” (อันใกล้) ที่ทุกคนจะหวังได้กับ “ฟุตบอลโลก”
แบบไม่ต้องเพ้อฝัน…ลมๆ แล้งๆ อีกต่อไป
ผมขอการันตี!!!

– บี บางปะกง –
joggingboy_be@yahoo.com

แบ่งปัน.
Exit mobile version