ตำรวจ ปปป.ร่วมกับ ป.ป.ช.ซ้อน แผนรวบ ผอ.กองช่าง เมืองใหม่บางบัวทอง คาห้องทำงานเรียกเงิน 1 แสนบาทแลกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์เจ้าตัวให้การภาคเสธ อีกคดีตามจับอดีต ผอ.ศูนย์สำรวจที่ดินโคราช ออกโฉนดเอื้อนายทุนรุกเขาใหญ่บนพื้นที่ทำเลทอง 2 พันไร่ ด้าน ผอ.ป.ป.ท.เขต 1 เผยแจ้งกรมที่ดินไป 3 ปีแล้วแต่ยังไม่มีการเพิกถอนสิทธิที่ดิน แฉเจ้าตัวเพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 64 ในคดีออกโฉนดเอื้อนายทุนอีกแปลงก่อนจะถูกจับกุมซ้ำ
ตำรวจ ปปป.จับเจ้าหน้าที่รัฐทุจริต 2 คดีเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 และตัวแทนจาก ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงผลจับกุมคดีสำคัญเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตต่อหน้าที่ 2 คดี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวว่า คดีแรกตำรวจ บก.ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ช. จับกุมนายชยุต หนองหาร อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ลงวันที่ 3 ก.ค.67 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ” พร้อมของกลาง เงินสด 9 หมื่นบาท ปืน 1 กระบอก กระสุน 10 นัด จับได้ที่อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองใหม่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ก่อนนี้มีผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ที่สำนักงานเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จ.นนทบุรี แต่ถูกนายชยุต ผอ.กองช่าง เรียกเงิน 180,000 บาท แลกกับการออกใบอนุญาตให้อ้างเป็นค่าอำนวยความสะดวกก่อนต่อรองราคาเหลือ 100,000 บาท แต่เนื่องจากความเป็นจริงค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตไม่น่าจะเกิน 4,000 บาท นำเรื่องร้องเรียน ป.ป.ช. ก่อนวางแผนส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปรวบรวมพยานหลักฐานขณะส่งมอบเงินงวดแรก 1 หมื่นบาท นำมาสู่การออกหมายจับ เมื่อถึงกำหนดนัดส่งมอบเงินที่เหลืออีก 9 หมื่นบาท วางแผนจับกุมได้ที่ห้องทำงานพร้อมเงินของกลาง สอบสวนนายชยุตให้การภาคเสธ อ้างว่ารับเงินจริงแต่เป็นค่าดำเนินการอื่นๆไม่ใช่เรียกรับแลกออกใบอนุญาต แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า อีกคดีตำรวจ บก.ปปป.ร่วมกับ ป.ป.ท.จับกุมนายอรุณ สหธรรมปกรณ์ อายุ 71 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ลงวันที่ 11 ก.ค.66 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” จับได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 172/165 หมู่บ้านอิงธาร ม.4 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหารายนี้เป็นอดีตผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่ไปมีส่วนเกี่ยวพันกับการนำที่ดินสาธารณประโยชน์มาออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบให้กลุ่มนายทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ทำเลทองรีสอร์ตขนาดใหญ่ 2,000 ไร่ บริเวณเขาใหญ่ อ.ปากช่อง แหล่งท่องเที่ยวที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท รวมถึงที่ดินในพื้นที่เขตเศรษฐกิจอีกหลายอำเภอทั่วจังหวัดนครราชสีมา สร้างความเสียหายหลายพันไร่ ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมมาตลอดเหลืออายุความอีกเพียง 2 เดือนเท่านั้น เบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา”
นายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 กล่าวว่า พฤติกรรมนายอรุณจากหลักฐานพบว่า ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งได้นำ ส.ค.1 ที่ออกในพื้นที่ อ.ปักธงชัย แต่ไปออกโฉนดข้ามอำเภอที่ อ.สูงเนิน หรือที่เรียกกันว่า ส.ค.1 บิน พื้นที่ที่ออกเป็นพื้นที่กรมที่ดินได้มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงโดยออกโฉนดบริเวณกึ่งกลางแปลงของที่ดินดังกล่าว พฤติกรรมของกลุ่มนี้ยังได้ออกโฉนดที่ดินในอีกหลายพื้นที่ ป.ป.ท.ได้ไต่สวนดำเนินคดีกับกลุ่มนี้เมื่อปี 2560 ผู้ต้องหาถูกจับกุมมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ เม.ย.62 ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี เพิ่งออกจากเรือนจำมาเมื่อ ส.ค.64 เมื่อรู้ว่ามีหมายจับอีกหลบหนีแต่สุดท้ายถูกจับกุมได้ จากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนด 80 แปลง หรือเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ รวมถึงจุดแลนด์มาร์กของเขาใหญ่ ที่ดินที่ออกโดยมิชอบจะต้องถูกเพิกถอน ทั้งนี้ได้แจ้งกรมที่ดินไปตั้งแต่ปี 2563-2564 แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการเพิกถอนแต่อย่างใด
นายกฤศกรกล่าวอีกว่า คดีดังกล่าวมีการออกหมายจับไว้ 5 หมายจับ เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน จับกุมได้วันนี้ 1 คน เหลืออีก 3 คนที่ยังหลบหนีอยู่ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รังวัด, ผู้กำกับการรังวัด และผู้กำกับเดินสำรวจโฉนดที่ดิน โดยจะต้องติดตามจับกุมตัวให้ได้ครบทุกคน สำหรับอดีตผู้อำนวยการศูนย์ฯที่จับกุมตัวได้วันนี้จากการตรวจสอบพบว่ายังมีหมายจับ 3 หมายจับ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
