“นายกฯ เศรษฐา” ลุยสวนทุเรียนเมืองจันทบุรี ลองชิม 3 สายพันธุ์ “นวลทองจันท์-พวงมณี-ก้านยาว” พร้อมรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะจากเกษตรกร สั่งงดซ่อมแซมถนนช่วงนี้ ให้นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกขึ้น ด้าน 2 สส.ก้าวไกล ร่วมต้อนรับ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร ถึงสวนนวลทองจันท์ ต.มาบไพ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ตรวจติดตามการผลิตทุเรียนคุณภาพปลอดภัยมูลค่าสูง และรับฟังปัญหาจากเกษตรกร โดยมี น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เข้าร่วมรับฟังปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนทุเรียน
นายสุเทพ นภพันธ์ เจ้าของสวนทุเรียนนวลทองจันท์ กล่าวสะท้อนปัญหาว่า ปีนี้ร้อนและแล้งมาก น้ำเป็นปัจจัยหลักในการทำการเกษตรขาดแคลน รวมไปถึงปัญหาการใช้แรงงานต่างด้าวที่ต้องใช้จำนวนมากในภาคการเกษตร ทั้งการดูแลและการขนส่งที่ยังคงพบปัญหาอยู่ รวมถึงปัญหาศัตรูพืชระบาด
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญผลไม้เพื่อการส่งออก เป็นนิมิตหมายอันดีที่จะรับฟังแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร จากการรายงานปีนี้น่าจะส่งออกทุเรียนมากกว่าปีที่ผ่านมามาก ซึ่งทุเรียนถือเป็นผลไม้หลักส่งออกไปยังประเทศจีน โดยปริมาณเฉลี่ยการบริโภคคนจีนอยู่ที่ 0.7 กิโลกรัมต่อคน คนไทย 5 กิโลกรัมต่อคน และคนมาเลเซีย 11 กิโลกรัมต่อคน จึงต้องส่งเสริมปลูกทุเรียนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยคู่แข่งสำคัญของไทยคือเวียดนาม ต้องพัฒนาทั้งระบบเพื่อแข่งขันกับประเทศเวียดนามได้ จึงให้ความสำคัญกับพืชเศรษฐกิจตรงนี้ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องมีมาตรการที่จะพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป รวมถึงการแปรรูป การใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงในการดูแลรักษาทุเรียนให้ได้คุณภาพ
นอกจากนี้ ยังต้องตรวจเข้มงวดเรื่องทุเรียนอ่อน โดยขอให้ทางกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาคุณภาพทุเรียนส่งออก ไม่อยากให้ปลายทางได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ต้องพยายามสร้างชื่อเสียง ส่วนปัญหาน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งจากกการที่ตนไป จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี ก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน จึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริหารจัดการแหล่งน้ำให้เพียงพอในการรองรับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน
ส่วนปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ไม่พอ ต้องหาที่เก็บให้เพียงพอเพื่อให้ได้ผลไม้ส่งออกต่างประเทศที่มีคุณภาพ การที่เราต้องทำ one stop service บริเวณตามแนวชายแดน เนื่องจากที่ผ่านมาผลไม้ไปค้างอยู่ 1-2 วัน ถือว่าเป็นปัญหา จึงสั่งการไปที่กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ บูรณาการในการทำศูนย์ one stop service ให้ได้
ขณะที่เรื่องการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โปรโมตให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายัง จ.จันทบุรี โดยเฉพาะทุเรียนภายในประเทศ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ พยายามสนับสนุนให้มีการโปรโมตให้มีการท่องเที่ยวในเดือนเมษายน-กรกฎาคม เพราะเป็นเดือนที่มีผลผลิตเยอะ แต่ปัญหาที่ตามมาคือปัญหาการจราจร ซึ่งตนได้สั่งการให้กรมทางหลวง งดซ่อมแซมถนนสุขุมวิทในช่วงนี้ เพื่อประชาชนจะได้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมกับสั่งการให้กระทรวงแรงงาน จัดหาจัดหาแรงงานเกษตรกรให้เพียงพอต่อภาคเกษตรกรรมด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ชมการสาธิตการตัดทุเรียนจากต้น โดยเจ้าของสวนทุเรียนได้มอบทุเรียนสายพันธุ์นวลทองจันท์ สีทอง ซึ่งเป็นต้นแรกของโลกให้นายกรัฐมนตรี 1 ลูก และยังได้ชิมทุเรียนสายพันธุ์นวลทองจันท์ พวงมณี และก้านยาว อย่างอารมณ์ดี โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่า “อร่อยมาก ชอบแข็งๆ ไม่รู้ว่าเรียกว่าห่ามหรือเปล่า”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีประชาชนมารอให้กำลังใจพร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงให้นายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็พบว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จันทบุรี พรรคก้าวไกล คือ น.ส.ปรัชญาวรรณ ไชยสืบ สส.จันทบุรี เขต 2 และ น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 มารอต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายเศรษฐา พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมโรงงานคัดบรรจุผลไม้ ที่บริษัท ดราก้อน เฟรช ฟรุท จำกัด ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี โดยมี นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี ให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยมชม
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวเป็นหนึ่งในโรงคัดบรรจุทุเรียนสดและส่งออกรายใหญ่ของ จ.จันทบุรี ได้รับรองมาตรฐาน GMP และขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชกับกรมวิชาการเกษตร ผ่านมาตรฐานในอาคารการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ตามหลัก GMP มีการคัดแยกคุณภาพทุเรียนแบ่งสัดส่วนและน้ำหนักอย่างชัดเจน และชุบน้ำทำความสะอาดกำจัดสิ่งแปลกปลอมด้วยการเป่าลม ผ่านกระบวนการผึ่งให้แห้ง แพ็กบรรจุ และโหลดสินค้าใส่ตู้คอนเทนเนอร์ โดยในปัจจุบันประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนเป็นหลักกว่า 90% เมื่อเสร็จสิ้นจุดนี้ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานคัดบรรจุผลไม้และแปรรูปคุณภาพ บริษัท เกาฟง จำกัด ต่อ.