“นิกร จำนง” เผยมุมมอง 6 ข้อ หลังเห็นรายชื่อว่าที่ สว.ชุดใหม่ ยัน ไม่เห็นด้วยกับการด้อยค่า ดูถูกผู้เสนอตัวเข้ามา แนะ ให้เวลาได้ทำหน้าที่ก่อน ครบปีแล้วค่อยมาว่ากล่าวกันก็ยังทัน

วันที่ 30 มิถุนายน 2567 นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา และคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุความเห็นถึงรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ ว่า ตนขอให้ความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจเกี่ยวกับวุฒิสมาชิกชุดใหม่ หลังจากฟังเสียงรอบข้างมาระยะหนึ่ง โดยแบ่งเป็น 6 ข้อ ดังนี้

1. ส่วนตัวเห็นว่าควรมีวุฒิสภามาช่วยกลั่นกรองกฎหมาย และจะดีที่มาจากสาขาอาชีพต่างๆ แม้จะมีปัญหาอยู่บ้างในระบบขั้นตอนของการได้มาตามกฎหมายในครั้งนี้ ที่เมื่อเราได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดแล้วค่อยแก้ไขในโอกาสต่อไป แต่ก็ถือว่าแนวนั้นมาถูกทางแล้ว

2. ไม่เห็นด้วยกับการมีวุฒิสมาชิกมาจากการแต่งตั้ง แม้เคยเห็นการแต่งตั้งวุฒิสมาชิกที่ดีที่สุดในสมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี โดยคณะกรรมการที่เป็นอิสระ แม้แต่คนที่ท่านเสนอเห็นว่าเหมาะสม แต่ยังต้องถูกกรรมการคัดออก หรือตนเคยได้รับมอบหมายให้ทาบทามบุคคลมาเป็นวุฒิสมาชิกภาคเกษตรท่านหนึ่งในภาคใต้ ตนโทรศัพท์ไป ลูกสาวบอกว่าพ่อไม่อยู่ ไปตัดยางในสวนกลับเย็นๆ เขาเป็นเกษตรกรธรรมดาได้เป็นวุฒิสมาชิกในครั้งนั้นด้วย ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว เขายังทำงานให้เกษตรกรอยู่จนปัจจุบัน เพราะเขาเป็นตัวแทนอาชีพเกษตรกรจากรากหญ้าจริงๆ

3. ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกโดยตรง เพราะจะเกิดปัญหาตัวแทนประชาชนซ้อนกัน ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้แทนประชาชนกันแน่ ที่สำคัญ จะถูกแทรกแซงและครอบงำโดยตรงจากฝ่ายการเมืองอย่างแน่นอน ไม่ใช่การเข้ามาเกี่ยวข้องโดยอ้อมเหมือนครั้งนี้

4. ไม่เห็นด้วยกับการไปด้อยค่าวุฒิสมาชิกชุดนี้ เพราะคิดว่าเราเป็นแค่บุคคลคนหนึ่งในสังคมนี้ เราไม่มีสิทธิที่จะไปให้ความเห็นเช่นนั้น เราด่าว่าวุฒิสมาชิกที่มาจากหอคอยงาช้าง หรือมาจากการแต่งตั้ง แต่พอเราได้จากกลุ่มที่มาจากอาชีพต่างๆ และบ้างก็มาจากรากหญ้าโดยตรง เราก็ไปด้อยค่าเขาอีก คำถามกลับมาที่ต้วเราเองว่า เราเป็นใคร สูงส่งแค่ไหนถึงมีสิทธิให้ความเห็นเช่นนั้นได้

5. อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการตรวจสอบไปตามกฎหมายที่เขามีหน้าที่และอำนาจ ไม่ใช่ตามที่เราอยากให้เป็นไป จากนั้นให้วุฒิสมาชิกที่ผ่านการตรวจสอบทำหน้าที่ของเขากันไปก่อน ถึงค่อยมาใช้สิทธิว่ากล่าวเขาตามที่ควรเป็น เพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อความสะใจของเราเอง

6. ตนแค่เป็นคนที่มองโลกตรงไปตรงมาในแง่ดี เพราะคิดว่าตนก็แค่คนคนหนึ่งที่ทำงานทางการเมือง แม้จะยาวนานแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรือฝ่ายไหนที่สูงส่งกว่าใคร เคารพทุกๆ คนที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง และไม่ชอบการยกตนข่มท่านว่าใครดีกว่าใคร เพราะมันวัดกันที่ใครจริงใจกับประเทศชาติและประชาชนมากกว่า ซึ่งมันวัดกันยากมาก ต้องใช้เวลาพิสูจน์คนทางการเมือง

ในช่วงท้าย นายนิกร ระบุด้วยว่า “เราควรจะให้เวลากับท่านสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้กันสักระยะหนึ่ง โดยไม่ดูถูกความเป็นเพื่อนร่วมชาติผู้เสนอตัวเข้ามาทำหน้าที่กันไม่ดีกว่าหรือ? ครบปีแล้วค่อยมาว่ากล่าวกันก็ยังทันครับ”.

แบ่งปัน.
Exit mobile version