พรรคประชาธิปัตย์ ประชุมใหญ่ ปี 67 แก้ข้อบังคับโหวตเลือกหัวหน้าพรรค จากระบบ 70:30 เป็น 40:40:20 พร้อมเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเป็น กก.บห. “เฉลิมชัย” ย้ำพรรคยืนหยัดได้ด้วยความสุจริตและมีเอกภาพ พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านสมัยที่ 2 เต็มที่ มอง โผ ครม. เป็นอำนาจนายกฯ รับผิดชอบตามที่เลือก
วันที่ 27 เมษายน 2567 พรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ที่โรงแรม มิราเคิล แกรนด์กรุงเทพมหานคร โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง นำโดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนหัว หัวหน้าพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ของพรรค รวมถึง สส. สมาชิกพรรค ที่ต้องเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมในครั้งนี้
โดยวาระการประชุมวันนี้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค แต่เป็นการรับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2566 ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 รวมถึงการรับรองงบการเงินปี 2566 การดำเนินการตามข้อบังคับข้อที่เกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ของพรรคและแผนหรือโครงการที่จะดำเนินกิจกรรมสำหรับปีต่อไป โดยเฉพาะการหารายได้ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมืองและการพัฒนาบุคลากรทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม วันนี้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ป้ายแดง ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการประชุม พร้อมโชว์บัตรประจำตัวสมาชิกให้กับสื่อมวลชน และได้เข้าไปทักทายสวัสดีบรรดาแกนนำ ภายในห้องประชุมด้วยตนเอง
จากนั้นเมื่อเวลา 12.20 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงผลที่ประชุมพรรค ว่า ส่วนใหญ่เป็นประเด็นให้ความสำคัญเรื่องคะแนนสัดส่วนในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งวันนี้มีการแก้ไขการเป็นสมาชิกพรรคที่จะเป็นกรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคในอนาคต ลดจาก 5 ปี เหลือ 2 ปี และการยกเว้นข้อบังคับพรรคจากที่เดิมเคยกำหนดสัดส่วนไว้ 3/4 ขององค์ประชุมใหญ่ แก้ไขเหลือมากกว่ากึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังแก้ไขสัดส่วนการให้คะแนนโหวตเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหาร จากเดิม เสียงส.ส. 70% รวมกับคณะกรรมการอื่นๆ ทั้งหมดอีก 30% ได้ปรับเปลี่ยนเป็น สส. 40% จากกรรมการบริหารพรรค 20% และจากองค์ประชุมทั่วไป 40% ซึ่งที่ประชุมก็ได้ความเห็นชอบร่วมกัน
เมื่อถามถึงสิ่งที่ผู้ใหญ่ในพรรคฝากไว้ในวันนี้ นายเฉลิมชัย ระบุว่า มีเพียงการพูดพูดในเรื่องหลักการของพรรคเป็นหลัก โดยสรุปได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังอยู่ได้วันนี้เพราะความสุจริตในพรรค รวมทั้งความเป็นเอกภาพในพรรค ถือว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งประชาธิปัตย์กำลังเดินไปข้างหน้า ซึ่งปรับปรุงประชาธิปัตย์ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคมา 3 เดือนเศษ ตนได้ดำเนินการปรับปรุงไปหลายด้าน พร้อมเตรียมตั้งคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อรองรับในวันที่พรรคจะเป็นรัฐบาลในอนาคต
ส่วนการดึงอดีต สส. คนเคยร่วมงาน กลับมาทำงานในพรรคนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เริ่มมีการประสานงานแล้ว คาดว่าจะมีการแถลงข่าวเป็นระยะ ส่วนนายมงคลกิตติ์ ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของพรรค ตนก็ย้ำว่าให้เมื่อเข้ามาในพรรคต้องทำงานกับประชาธิปัตย์ทั้งหมดได้ เพราะเราทำงานเป็นทีม เราเป็นองค์กร แต่ขณะนี้ตนเพิ่งได้พบกันเมื่อวาน และจะหางานที่เหมาะสมให้ภายหลัง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการจับตาโผการปรับคณะรัฐมนตรี นายเฉลิมชัยระบุว่า อำนาจการตัดสินใจเป็นของนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ก็รอให้โปรดเกล้าฯ หากตัดสินใจถูกก็ถูก หากตัดสินใจผิดก็ต้องรับผิดไป ถือว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยทิ้งท้ายว่ายืนยันว่าการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสมัยที่ 2 พรรคจะทำเต็มที่