การ “เสียชีวิต” และ “บาดเจ็บ”… ทั้งทางกาย ทางใจจาก “อุบัติเหตุ” ทำให้ผู้ประสบภัยและครอบครัวสูญเสียสมาชิก อาจเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว หรือหากพิการก็เกิดการสูญเสียรายได้ที่ลดลงของบุคคลพิการ
ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาตัวผู้ป่วย รวมถึงค่าเสียโอกาสในการทำงานอื่นๆอีกตามมา
แม้จะผ่านช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์มาแล้ว หากแต่การทำงานการเฝ้าระวังอุบัติเหตุบนท้องถนนของทุกภาคส่วน ยังคงทำงานกันอย่างเข้มข้นตลอดทั้งปี หนึ่งในนั้นก็คือ “ชุมชนท้องถิ่นดื่มไม่ขับ สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนลดอุบัติเหตุบนท้องถนนระดับท้องถิ่น
ที่มีความมุ่งมั่นอยากจะทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งและน่าอยู่ ภายใต้การดำเนินงานโดยตรงร่วมกับ สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สสส.
ธัญญา แสงอุบล ผู้รับผิดชอบโครงการเสริมศักยภาพชุมชนท้องถิ่นเพื่อการจัดการความปลอดภัยทางถนน บอกว่า การทำงานของเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ซึ่งมีท้องถิ่นกว่า 3,000 ตำบลในการเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่ผ่านมา สสส.ได้หนุนเสริมศักยภาพให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
…มีแนวทาง พร้อมกับเครื่องมือในการดำเนินงานเพื่อจัดการความปลอดภัยทางถนนร่วมกับกลไกในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้ท้องถิ่นสามารถลดอัตราการบาดเจ็บและสูญเสียของคนในพื้นที่ได้
หากย้อนไปในปี 2564 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานขับเคลื่อนเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนของเครือข่ายฯอย่างเป็นระบบ น่าสนใจว่า…
มีแนวโน้มอุบัติเหตุลดลงเรื่อยๆในแต่ละพื้นที่ และ…เมื่อเครือข่ายยิ่งทำงาน ยิ่งแบ่งปันข้อมูลก็ยิ่งเห็นนวัตกรรมดีๆ
ที่สำคัญคือได้ร่วมแลกเปลี่ยนกัน ทำให้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่เครือข่ายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้แล้วจากการร่วมกันจัดการความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 มาถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 จาก 115 อปท. (ปัจจุบัน 189 อปท.) สะท้อนภาพให้เห็นชัดเจนว่า…
จำนวนการเกิดเหตุปี 2565 เกิดจำนวน 136 ครั้ง มาปี 2566 เกิดเหตุ 89 ครั้ง ลดลง 47 ครั้ง หรือคิดเป็นร้อยละ 34.56 ซึ่งส่งผลให้สามารถลดจำนวนการบาดเจ็บและเสียชีวิตได้
โยธิน อำพิน นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญพิเศษ เครือข่ายทำงานตำบลขับขี่ปลอดภัยของ อบต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี เสริมว่า บริบทของพื้นที่ อำเภอเมืองอุทัยธานี มีวัดท่าซุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวเข้ามาทำบุญและสัญจรผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก
“แม้ไม่ได้อยู่ในถนนสายเอเชีย แต่ก็เป็นสายหลักของจังหวัด ซึ่งวัดก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายการทำงานขับขี่ปลอดภัย ในการสนับสนุนบุคลากร เครื่องดื่ม บริการลดความเสี่ยง และลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ของเรา”
ภาพของอำเภอในปีนี้ เกิดอุบัติเหตุจำนวน 23 ราย แม้ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวและผู้คนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์…สัญจรบนถนนกันเยอะ แต่การเกิดอุบัติเหตุลดลงกว่าสงกรานต์ปีที่ผ่านมา
ในปี 2566 เกิดเหตุในช่วงสงกรานต์ 7 วันอันตราย จำนวน 34 ราย ปี 2565 จำนวน 38 ราย
โยธิน ย้ำว่า พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ทำงานกันอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง มีแผนการเฝ้าระวังตลอดทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาล แต่เรายังมีการจัดทำ “นวัตกรรมปฏิทินจุดเสี่ยง” ร่วมด้วย
“ปฏิทินจุดเสี่ยง” ที่ว่านี้เป็นนวัตกรรมที่เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ที่ร่วมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยนำมาใช้ โดยให้แต่ละชุมชนร่วมกันกำหนด “จุดเสี่ยง” และ “จุดอันตราย” ที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงการกำหนดแผนการเฝ้าระวังอุบัติเหตุในแต่ละช่วงเทศกาลวันหยุด
“เรามีการประชุมร่วมกัน เตรียมความพร้อมในเรื่องของข้อมูลจุดเสี่ยง เน้นไปที่การปรับสภาพจุดเสี่ยงทั้งหมดในพื้นที่ และการพัฒนาศักยภาพของคน”
ย้ายมุมมองไปทางฝั่งของถนนเส้นหลัก ในพื้นที่ ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่ภาคใต้ ยุทธนา รัตนมณี ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมของสงกรานต์ปีนี้มีผู้คนเดินทางสัญจรกันหนาแน่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน
“รถล่องใต้ผ่านถนนเส้นหลักจำนวนมาก และจังหวัดชุมพรเป็นพื้นที่ประตูภาคใต้ เป็นเสมือนจุดจอดแวะพัก ก่อนที่จะเดินทางขับรถลงใต้ต่อไป”
ภาพรวมสถิติในจังหวัดชุมพรทั้งจังหวัด ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เท่ากับปีที่ผ่านมา ในส่วนของพื้นที่อำเภอเมือง เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของเครือข่ายฯ ของ 5 อปท.ในชุมพรที่ทำงานขับเคลื่อนร่วมกัน
แน่นอนว่า จะเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เราอาจจะชักชวนให้เกิดการทำงานร่วมกันในอนาคต
ลงลึกในรายละเอียดในพื้นที่ ต.วังไผ่ เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งเกิดวันที่ 11 เมษายน จำนวน 1 เคส เป็นชาวต่างชาติขับจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ตรงจุดกลับรถและวันที่ 13 เมษายน จำนวน 3 เคส
ทั้ง 4 กรณีนี้…เกิดจากการขับรถโดยไม่ระมัดระวัง ไม่มีกรณีของเมาแล้วขับ
สำหรับเป้าของการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ชุมพรมีแผนการดำเนินงานเข้มข้น โดยใช้ นวัตกรรมปฏิทินจุดเสี่ยง ในการกำหนดแผนการทำงาน ทั้งในพื้นที่ และร่วมกับทุกหน่วยงานในจังหวัด บูรณาการการทำงานร่วมกัน จากทั้ง อปท.ในเครือข่าย 5 อปท.และร่วมกับเครือข่ายอื่นๆ
ดร.นิสา รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) บอกว่า การทำงานลดอุบัติเหตุบนถนนของเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่พุ่งเป้าไปที่ในแต่ละพื้นที่ มี นวัตกรรมปฏิทินจุดเสี่ยง ในการกำหนดจุดเสี่ยง จุดอันตรายบนท้องถนน
ที่สำคัญคือ…มีช่วงระยะเวลาในการเฝ้าระวังกันอย่างเข้มข้น
“เราจะหนุนเสริมการทำงานจากฐานข้อมูล ซึ่งแต่ละพื้นที่มีการเก็บรวบรวมอย่างเป็นระบบผ่านเครื่องมือ TCNAP และ RECAP นำมาวิเคราะห์ วางแผน และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ จึงต้องมาจากการบูรณาการทำงานร่วมกันกับ 4 องค์กรหลักในพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย ท้องถิ่น ท้องที่ องค์กรภาครัฐ และ ภาคประชาชน นอกจากนี้ยังต้องบวกกับ ผู้นำ…ซึ่งเป็นทุนศักยภาพของพื้นที่ด้วย
สุดท้ายปลายทาง เราเชื่อมั่นว่า “ชุมชนท้องถิ่น” จะเป็นกำลังสำคัญในการ “ลดอุบัติเหตุ” ได้อย่างเป็นรูปธรรม.
คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม