“สุทธิพงษ์” ปลัดมหาดไทย มอบนโยบายผู้ว่าฯ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการภาคอีสาน 20 จังหวัด ย้ำ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข มุ่งมั่นทำงานด้วยน้ำใจ และทำประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชน

วันที่ 28 มีนาคม 2567 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดและมอบแนวทางการขับเคลื่อนงานตามโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรมเทพนครและอัลวาเรซ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมด้วยความพร้อมเพรียงและมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกอบรมตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในวันนี้ ซึ่งความสำเร็จของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข จะเกิดขึ้นได้อยู่ที่ผู้นำที่เป็นคนมหาดไทย เพราะสังคมยกย่องให้เกียรติผู้ว่าราชการจังหวัด เปรียบเสมือนนายกรัฐมนตรีของจังหวัด และเป็นผู้นำสูงสุดในการนำพาราชการส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่อยู่ในจังหวัด ในการช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง การศึกษา สาธารณสุข และเรื่องอื่นๆ ในทุกมิติ ไปสู่ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำรัสแก่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 โดยได้ตรัสถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นพ่อเมือง ในการดูแลประชาชน ดังนั้นผู้นำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องเอาจริงเอาจัง เป็นแบบอย่างที่ดี และใช้สรรพกำลังทั้งหมดที่มี นำทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ช่วยกันขับเคลื่อนทุกสิ่งอย่างที่จะช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืนได้ และประการที่สำคัญดังพระราชดำรัสที่พระองค์ท่านมีพระกระแสรับสั่งในการทำด้วยน้ำใจ มาให้พวกเราทุกคน เพื่อให้เราในฐานะราชสีห์ผู้ภักดีของแผ่นดิน และผู้เป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหลักชัยมุ่งมั่นทุ่มเทกายและใจทำทุกสิ่งอย่างเพื่อให้พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประสบความสำเร็จ และส่งผลดีทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า สิ่งที่กล่าวไปจะมีค่าอย่างยิ่ง หากพวกเราทุกคนร่วมลงมือทำ ทำด้วยน้ำใจ และทำให้ยั่งยืน น้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตามหลัก 4 กระบวนการ คือ ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และขอฝากอนาคตของคนไทยและประเทศชาติไว้ในมือพวกเราชาวมหาดไทย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน รับภาระในการเป็นนายกรัฐมนตรีของจังหวัด และนายกรัฐมนตรีของอำเภอ ด้วยจิตวิญญาณของราชสีห์ผู้ภักดีของแผ่นดิน จิตวิญญาณของนักปกครองผู้รักประชาชนไปด้วยกัน

ทางด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มียุทธศาสตร์การพัฒนาที่เน้นหนักในด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการเจริญเติบโต เรามีสนามกีฬาที่ได้รับมาตรฐานของโลก เช่น การแข่งขันจักรยานยนต์ Moto GP ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศรวมกว่า 180,000 คน คิดเป็นเงินหมุนเวียนประมาณ 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ มีการจัดการแข่งขันบุรีรัมย์มาราธอน ระดับ Gold Label ในระดับโลก ที่สามารถสร้างรายได้ให้พื้นที่อย่างมาก ตลอดจนมีศักยภาพสร้างให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวตลอด 365 วัน เรียกว่า การท่องเที่ยวเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับการพัฒนาก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการประชุมโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมในระดับภูมิภาค โดยบุรีรัมย์มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และพร้อมในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในทุกด้าน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้พี่น้องประชาชนได้รับการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมวันนี้ ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร รองอธิบดีกรมการปกครอง นายพรรณรบ เตชะมงคลาภิวัฒน์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และนายอำเภอในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก 20 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี รวมถึงผู้บริหารส่วนกลาง เข้าร่วมการประชุม

แบ่งปัน.
Exit mobile version