ผลงานเท่านั้น…คือคำตอบ
การหันหลังให้สมาคมลูกหนังไทย แบบ ‘No Return’ ของ “เสี่ยปิ๊บ” ปวิณ ภิรมย์ภักดี บิ๊กบอสกระต่ายแก้ว
สร้างแรงกระเพื่อมให้การทำงานของ “นายกแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ บนเก้าอี้ประมุขฟุตบอล ไม่น้อยเลยล่ะครับ!
เพราะอย่างที่รู้กันว่าเบื้องหลังการตกลงปลงใจขึ้นสู่ตำแหน่งนายใหญ่ของวงการลูกหนังของมาดาม
เป็นเพราะการสนับสนุนสุดตัว ของ 2 บิ๊ก จากคลองรังสิต และถิ่นอีสานใต้
โดยเฉพาะ“น้องปิ๊บ” แห่งบีจี ที่อาสาขอทำงานหลังบ้านให้ “พี่แป้ง” อย่างเต็มที่
ส่วนพี่สาวสุดที่เลิฟ ก็ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์คอยเน้นภาพลักษณ์ให้กับวงการฟุตบอลไทย ออกมา ดูดี มีอนาคต
ซึ่งตอนแรกทุกอย่าง ก็น่าจะลงตัวไร้ปัญหา
แต่เป็นเพราะบอลบ้านเรา มันมีกรรม (เก่า) หรือต้องคำสาป อย่างไรก็ไม่รู้
เพียงเวลาแค่ 4 เดือนเท่านั้น ก็มีเหตุให้น้องกะพี่ ร่วมสังฆกรรมทำงานด้วยกันไม่ได้…อีกต่อไป
ไอ้ครั้นจะฟื้นฝอยหาตะเข็บ ว่าต้นสายปลายเหตุมันเกิดจากเรื่องไหน อย่างไรกันแน่!
ดูแล้วก็คงไม่มีประโยชน์อะไร กับใคร? สักเท่าไหร่
เอาเป็นว่านับจากนี้เป็นต้นไป ก็เป็นหน้าที่ของ “นายกแป้ง” จะต้องเดินหน้าตะลุยภารกิจร้อยแปดพันประการ ของฟุตบอลไทยที่กำลังรออยู่
ให้สำเร็จลุล่วงไปให้ได้ สมดั่งใจมวลสโมสรสมาชิกที่เลือกตัวเองเข้ามาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ล้นหลาม
และสร้างความสำเร็จเป็นรูปธรรมให้ทีมชาติไทยในทุกชุด และทุกระดับ
ตามที่แฟนลูกหนังทั่วประเทศได้ฝากความหวังเอาไว้อย่างมากมาย
ซึ่งการประชุมสภากรรมการ วาระเร่งด่วน เมื่อวันก่อน ก็คงได้เห็นแล้วว่า รัฐนาวาฟุตบอล ยุค#เชื่อแป้ง
จะขับเคลื่อนตัวเอง…ไปในทิศทางใด?
หลังมีการแบ่งงานให้กับทุกฝ่ายรับผิดชอบอย่างชัดเจน
โดยทำการ แต่งตั้ง พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร สภากรรมการ ขึ้นมาเป็นอุปนายกคนใหม่ แทนที่ ปวิณ ภิรมย์ภักดี
พร้อมทั้งตั้งให้ “น้องเอมี่” พิมพ์ชญา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการทีม นครปฐม ยูไนเต็ด มาเป็นสภาฯแทนที่ กุดั่น สุขุมานนท์ ที่ลาออกไป
ส่วนตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฯ ที่มีกระแสข่าวลือมากมายเรื่องของการเปลี่ยนแปลง
สุดท้ายก็ยังไว้ใจให้ “บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงศ์ ทำงานต่อ
ทางด้านผู้ตัดสิน “บิ๊กฮัน” มิตติ ติยะไพรัช บิ๊กบอสเชียงราย ยูไนเต็ด ถูกตั้งให้เป็นประธานยุทธศาสตร์พัฒนาท่านเปาของสมาคมฯ
ขณะที่การบริหารฟุตบอลลีก ซึ่งถือเป็นหัวใจ ก็มอบให้ “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร์ นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี ขึ้นมาดูแลไทยลีก 1
ส่วนไทยลีก2 เป็นหน้าที่ของประธานใหญ่ชัยนาท “เฮียรุท” อนุรุทธิ์ นาคาศัย เป็นผู้รับผิดชอบ
โดย.เรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก2024-25 เปิดเจรจาหลายเจ้า ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายใน 10 วันนี้ เพราะการแข่งขันใกล้เข้ามาแล้ว .
ซึ่งเงินสิทธิประโยชน์ ไทยลีก1 ยืนยันว่า จะได้ทีมละ 10 ล้านบาท ส่วน ไทยลีก2 กลับไปได้เท่าเดิมที่ ทีมละ 3 ล้านบาท
กำหนดเปิดฤดูกาล 9-11 ส.ค.67 มีพักเลกแรกเกือบ 2 เดือน เพื่อเปิดทางให้ทีมชาติไทย ป้องกันแชมป์อาเซียน และจะเปิดเลกสองหลังปีใหม่ 4-5 ม.ค.68
สำหรับบอลถ้วย ไทยแลนด์ แชมเปียน คัพ ระหว่าง บุรีรัมย์ กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะเปลี่ยนไปเตะวันที่ 15 ม.ค.68
แต่ต้องไปคุยกับสปอนเซอร์ก่อน ถ้าเขายืนยันจะต้องเตะวันเดิม ก็จะเล่นที่ 3 ส.ค.67 ซึ่งต้องรอสภาฯสรุปอีกครั้งในวันจันทร์นี้
ส่วน ทีมชาติไทยชุดยู23 ตอนนี้ สมาคมฯ นำกลับมาทำเอง
โดยให้ มาซาทาดะ อิชิอิ มาเป็นที่ปรึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับทีมช้างศึกชุดใหญ่
ซึ่งตำแหน่งเฮดโค้ชยังเปิดกว้าง ทั้งโค้ชไทย และ โค้ชต่างประเทศ ที่จะมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมกันอีกครั้ง
ทั้งหมดคือแผนงานเบื้องต้น ที่ “นายกแป้ง” และสภากรรมการ วางเอาไว้สำหรับฟุตบอลไทบ เพื่อให้เดินไปตามเป้า
ส่วนจะถูกใจ ไม่ถูกใจ หรือ ตอบโจทย์ คนลูกหนัง และแฟนบอลทั่วประเทศ มากน้อยแค่ไหน?
ผลงานที่ออกมา เท่านั้น…จะเป็นคำตอบ !!!
– บี บางปะกง –
joggingboy_be@yahoo.com
