“จังหวัดสงขลา” ได้ยื่นจดหมายแสดงความประสงค์ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ ครั้งที่ 50” ให้ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย” เรียบร้อยแล้ว

 

วันที่ 1 ก.ค. 67 ความเคลื่อนไหวจากการที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้จังหวัดต่างๆ ได้เสนอตัวที่จะเป็นเจ้าภาพสำหรับการแข่งขัน ฟุตบอลคิงส์คัพ ประจำปี 2567 ทางจังหวัดสงขลาเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความต้องการที่จะจัดการแข่งขันในปีนี้

ซึ่งในรายละเอียดของการยื่นเสนอขอเป็นเจ้าภาพ จังหวัดสงขลา เลือกใช้สนามกีฬาติณสูลานนท์ ซึ่งมีความจุ 35,000 ที่นั่ง เป็นสนามสำหรับแข่งขัน โดยสนามกีฬาติณสูลานนท์ถือเป็นสนามที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย เป็นรองเพียงสนามราชมังคลากีฬาสถานเท่านั้น 

สนามกีฬาติณสูลานนท์ เคยจัดการแข่งขันรายการสำคัญต่างๆ มาแล้วมากมาย ทั้งการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 นัดชิงอันดับที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2541 รวมถึงฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 23 เมื่อปี พ.ศ.2563 

นอกจากนี้ สนามกีฬาติณสูลานนท์ ยังถือเป็นสนามเหย้าของสโมสรสงขลา เอฟซี ในฟุตบอลไทยลีก 3 และเคยสร้างสถิติมีคนดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาชีพไทย ที่จำนวน 36,715 คน ในเกมที่ทีมสงขลา เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ เอฟซี ในเกมไทยลีก 2 เมื่อปี พ.ศ.2554

ส่วนในด้านของการฝึกซ้อม จังหวัดสงขลา ได้เลือกสนามถึง 6 แห่งไว้ให้สำหรับนักกีฬาของแต่ละทีมได้ฝึกซ้อม คือ สนามมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา, สนามมหาวิทยาลัยทักษิณ, สนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สนามกีฬาจิระนคร หาดใหญ่ และสนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ (พรุค้างคาว) ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมที่พักไปถึงสนามซ้อมและสนามแข่งขันไม่ถึง 1 ชั่วโมง

สำหรับในด้านโรงแรมที่พักและร้านอาหารนานาชาติ ทางด้านจังหวัดสงขลาก็ได้เตรียมโรงแรมเอาไว้ 4 แห่งเพื่อรองรับนักกีฬาที่จะเดินทางมาแข่งขัน รวมถึงมีร้านอาหารนานาชาติอยู่ในพื้นใกล้เคียงพร้อม

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ประธานจัดหารายได้กองทุนกีฬาจังหวัดสงขลา ได้กล่าวถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขันฟุตบอล King’s Cup ว่า “สงขลามีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านจิตใจ ด้านความมุ่งมั่น ทุกคนในจังหวัดสงขลาต่างรอคอยฟุตบอลพระราชทาน King’s Cup มานานหลายยุคหลายสมัย ในปีนี้ทางผมและคณะทำงานทุกท่าน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทีมงานกีฬาจังหวัดสงขลา มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำฟุตบอล King’s Cup มาจัดที่จังหวัดสงขลาให้ได้”

“เรามีความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ที่อยากให้สงขลาเป็นเมืองกีฬา Sport City อย่างแท้จริง ซึ่งก่อนหน้านี้สงขลาเราเคยจัดงานกีฬาระดับนานาชาติมาแล้ว เช่น ฟุตบอล U23 จักรยานทางไกลนานาชาติ สงขลามาราธอนนานาชาติ เรียกว่าความมุ่งมั่นตั้งใจ เรามา 100% เรื่องสนาม เรื่องที่พัก เรื่องอาหาร เรื่องภูมิประเทศ เราพร้อมมาก”

“อยากจะย้ำอีกครั้งว่าคนสงขลารอคอยฟุตบอล King’s Cup มานานจริงๆ เด็กๆ ชาวสงขลาไม่เคยมีโอกาสได้ดูฟุตบอลระดับชาติมานานมากแล้ว อยากให้ทางสมาคมฟุตบอลฯ ช่วยพิจารณาจังหวัดสงขลาเป็นตัวเลือก ให้ชาวสงขลา และชาวใต้ ได้มีโอกาสชมฟุตบอลระดับชาติกันอีกครั้งหลังจากไม่เคยมาจัดนานหลายปี”

“เมืองสงขลาเป็นเมืองที่มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านสนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อม โรงแรม และเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย นอกจากนั้นสงขลายังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรมอันหลากหลาย อาหารอร่อย แหล่งท่องเที่ยวมากมาย ที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้มาชมการแข่งขัน และหากจังหวัดสงขลา ได้รับเลือกให้จัดการแข่งขันฟุตบอล King’s Cup ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ได้เป็นอย่างดี”

“ก่อนหน้านี้จังหวัดสงขลาเคยยื่นแสดงความจำนงขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 เมื่อปี พ.ศ.2565 ก่อนที่จะเป็นจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในครั้งนั้น โดยทางจังหวัดสงขลาเชื่อว่าหากพวกเขาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จะช่วยปลุกกระแสความนิยมในกีฬาฟุตบอลของภาคใต้ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง รวมถึงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัดอีกด้วย”.

 

แบ่งปัน.
Exit mobile version