“กลุ่มพีมูฟ” บุกสภา ยื่นหนังสือ ขอกมธ.ยกเลิกบังคับใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ปี 2558 ยัน เป็นสิทธิเสรีภาพประชาชนที่ได้รับการคุ้มครอง ชี้ “รัฐบาลเศรษฐา” คุมเข้มไม่ต่าง “รัฐบาลทหาร”
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายพชร คำชำนาญ กองเลขานุการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง สภาฯ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิก พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ โดยมี นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.เป็นตัวแทนรับเรื่อง
โดยนายพชร กล่าวว่า พวกตนเป็นกลุ่มตัวแทนจากขบวนการภาคประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิในการจัดการที่ดิน ที่อยู่อาศัย และทรัพยากร ในการที่จะดำรงวิถีของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ และสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมเท่าเทียมกับประชาชนทุกคน โดยพีมูฟได้เคลื่อนไหวมาตลอด 13 ปี ในหลายรัฐบาล ตามสิทธิการชุมนุมโดยชอบธรรมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญไทย รวมถึงหลักสิทธิมนุษยชนสากลต่างๆ ได้รับรองสิทธิในการชุมนุมของประชาชน แม้ปัจจุบันจะเป็นรัฐบาลพลเรือนของ นายเศรษฐา ทวีสิน พีมูฟ ยังเรียกร้องต่อสู้ตามสิทธิ แต่กลับพบว่าการควบคุมการชุมนุมไม่ได้เปลี่ยนไปจากรัฐบาลทหาร ยังมีการใช้กำลัง ใช้ตำรวจปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แม้ไม่มี พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ตำรวจยังอ้างบังคับใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ปี 2558 ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นสถานที่ราชการที่ประชาชนสามารถที่จะเข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียน หรือขอเข้าพบผู้ที่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาของประชาชนได้
“เรากังวลว่าสถานการณ์การละเมิดสิทธิการแสดงออกของประชาชนจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ ในรัฐบาลนายเศรษฐาที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ขณะนี้กลุ่มพีมูฟ 2 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ และยืนยันว่าจะขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด เนื่องจากเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ได้รับการคุ้มครอง และได้มีการขออนุญาตแจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะถูกต้องทุกประการ ทั้งนี้ขอให้คณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง สภาฯ ช่วยปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะมีส่วนร่วมในทางการเมืองได้อย่างไรบ้าง การลงถนนของประชาชนถือเป็นสิทธิขั้นแรกที่จะสามารถแสดงออกได้ว่าเดือดร้อนนโยบายของรัฐบาล และขอเรียกร้องให้ กมธ.การพัฒนาการเมือง สภาฯ ตรวจสอบการบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ปี 2558 ว่า มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่ หากขัด ก็ขอให้มีการดำเนินการเพื่อยกเลิกกฎหมายนี้” นายพชร กล่าว.