Close Menu
ไทยแลนด์ไทมส์
  • หน้าแรก
  • ประเทศไทย
  • การเมือง
  • เศรษฐศาสตร์
  • กีฬา
  • บันเทิง
  • เทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • กำลังมาแรง
มีอะไรเกิดขึ้น

หยุดยาวคึกคัก นักท่องเที่ยวกว่าหมื่นคน แห่ขึ้นดอยอินทนนท์ สัมผัสลมหนาว

ไม่มีมุมมองตลาดคลาวด์ข้อมูลของสหรัฐฯ

เช้านี้ กทม. ค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เห็นสีเขียวหลายเขต

การบินเอเชียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2569

ตลาดหุ้นไทยมุ่งเติบโตแบบก้าวกระโดด

Facebook X (Twitter) Instagram
ไทยแลนด์ไทมส์
Facebook X (Twitter) Instagram Pinterest
  • หน้าแรก
  • ประเทศไทย
  • การเมือง
  • เศรษฐศาสตร์
  • กีฬา
  • บันเทิง
  • เทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • กำลังมาแรง
ไทยแลนด์ไทมส์
You are at:Home » “พีระพันธุ์” เชื่ออาจยุบสภาก่อนกำหนด ชงยาแรง “ประหารชีวิต” นักการเมืองคุ้มครองทุนเทา
การเมือง

“พีระพันธุ์” เชื่ออาจยุบสภาก่อนกำหนด ชงยาแรง “ประหารชีวิต” นักการเมืองคุ้มครองทุนเทา

ห้องข่าวโดย ห้องข่าวพฤศจิกายน 9, 20252 อ่านนาที
แบ่งปัน Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email

“พีระพันธุ์” เชื่ออาจยุบสภาก่อนกำหนด หลังนายกฯเริ่มไม่มั่นใจว่าพรรคประชาชนจะสนับสนุน ยืนยันรวมไทยสร้างชาติพร้อมเลือกตั้ง ชงยาแรง “ประหารชีวิต” นักการเมืองคุ้มครองทุนเทา

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประเมินสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า แม้รัฐบาลจะมีกรอบกำหนดการยุบสภาฯตามข้อตกลง MOA ที่นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศไว้ว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมกราคม 2569 แต่สถานการณ์ทางการเมืองไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความมั่นใจทางการเมืองด้วย

เชื่อนายกฯเริ่มไม่มั่นใจ

นายพีระพันธุ์เชื่อว่านายกรัฐมนตรี เริ่มไม่มั่นใจในการสนับสนุนจากพรรคประชาชนแล้ว โดยเฉพาะหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากความมั่นใจลดลง สถานการณ์รุมเร้าและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และมีเรื่องเกี่ยวโยงกับคนในภาครัฐบาลมากขึ้น ดังนั้น หากปล่อยให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วยุบสภาไม่ได้ จะเป็นสถานการณ์ที่ลำบากกว่าในปัจจุบัน จึงเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะมีการยุบสภาเร็วกว่ากำหนด

ไม่ได้มาเล่นการเมือง

นายพีระพันธุ์ ได้กล่าวถึง การประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ได้แสดงความตั้งใจลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้มีการปรับคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด แต่ที่ประชุมมีมติให้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคต่อ ทั้งนี้ ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคได้ลดลงจากเดิมที่มี โดยเน้นให้แต่ละคนมีภารกิจหน้าที่รับผิดชอบด้วย    ขณะเดียวกัน ก็มีบุคคลที่มีศักยภาพเข้ามาเสริมทัพ เช่น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ซึ่งร่วมงานกันมาสักพักแล้ว และนายนราพัฒน์ แก้วทอง ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพและประสบการณ์สูง สำหรับจุดยืนและนโยบาย พรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันสโลแกน “มาทำงาน ไม่ได้มาเล่นการเมือง”

ฟุ้งตรึงค่าไฟช่วยประหยัด

นายพีระพันธุ์ ได้ยกตัวอย่าง การทำงานเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานที่สามารถตรึงราคาค่าแก๊สได้ตลอด และตรึงค่าไฟในปี 2567 ได้ จากการปรับปรุงทำให้ค่าไฟยันไว้ที่ 4.18 บาท จากเดิม 4.70 กว่าบาท ซึ่งมีการคำนวณว่าช่วยประหยัดเงินประชาชนไปได้กว่า 270,000 ล้านบาทในปี 2567 และในปี 2568 ได้มีการปรับลดค่าไฟอย่างต่อเนื่องจาก 4.18 เหลือ 4.15 บาท และ 3.98 บาท ล่าสุดอยู่ที่ 3.94 บาท ตนเชื่อว่าการเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้คือสิ่งที่พรรคต้องการทำ

ชี้กฎหมายยังเบา

นอกจากเรื่องพลังงานแล้ว นายพีระพันธุ์กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทุนเทาที่ผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน, การฉ้อโกง ต้องอาศัยการบูรณาการกฎหมายหลายฉบับ แต่ปัญหาหลักคือ กฎหมายปัจจุบันมักจัดคดีเหล่านี้เป็นความผิดฐานฉ้อโกงธรรมดา ซึ่งมีโทษเบาและยอมความได้ ต่างจากความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนซึ่งมีโทษหนักกว่า แต่คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ส่วนใหญ่ไม่เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน

ชงประหารชีวิต

ดังนั้น หากพรรครวมไทยสร้างชาติ มีโอกาสเข้ามาบริหาร จะต้องมีการปรับปรุงกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นต้องออกกฎหมายใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ได้ออกกฎหมายพิเศษแล้ว กฎหมายใหม่นี้จะช่วยให้สามารถสนธิกำลังและกำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องพิสูจน์ตัวเอง รวมถึงการลงโทษผู้สนับสนุน เช่น ผู้ให้ที่พักพิง ซึ่งปัจจุบันไม่ถือว่ามีความผิดชัดเจน การแก้ปัญหานี้ต้องรู้จริง มีความสามารถ และตั้งใจทำจริง และต้องแก้ระบบที่ไม่ทันสถานการณ์ เพราะเมื่อปริมาณคดีเพิ่มขึ้นมาก แต่กำลังเจ้าหน้าที่ยังเท่าเดิม ทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสนอว่าผู้ที่มีส่วนกระทำความผิดหรือมีอำนาจคุ้มครองกลุ่มทุนเทาควรถูกลงโทษขั้นประหารชีวิต

ลั่นมีอำนาจจะทำให้ดู

“ปัญหาคือระบบบ้านเราไม่แก้ให้ทันสถานการณ์ ยกตัวอย่าง การจับกุมคนจีน 40 ถึง 50 คนพร้อมโทรศัพท์กว่า 200 เครื่อง ที่รีสอร์ทจังหวัดจันทบุรี บางคนไม่มีพาสปอร์ตและแสตมป์ตราเข้าเมือง แล้วให้เข้าพักได้อย่างไร เจ้าของสถานที่ต้องรับผิดชอบด้วย แต่ปัจจุบันคนที่ให้ที่พักไม่มีความผิด หากมีกฎหมายพิเศษครอบคลุมเหมือนเมืองจีนก็จัดการได้ แต่เราไม่มี รวมถึงในทางการเมืองยังมีคนมีอำนาจเข้ามาให้การคุ้มครอง และตัวเองก็มีส่วนในการกระทำความผิด ผมถึงได้เสนอการประหารชีวิตเรื่องทุจริต ผมเป็นคนแรกที่พูด เดี๋ยวนี้ก็พูดตามผมกันหมด แต่รู้ไหมว่าทำอย่างไร ผมจะทำให้ดู” นายพีระพันธุ์ กล่าว

หมดเวลาเกรงใจปัญหาชายแดน

นายพีระพันธุ์ได้แสดงจุดยืนด้านนโยบายความมั่นคง โดยเฉพาะประเด็นปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา โดยกล่าวว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องมีความเด็ดขาดและต้องหมดเวลาที่ต้องเกรงใจ เนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ฝ่ายไทยไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้น แต่การกระทำ เช่น การเซ็นสัญญาสันติภาพ อาจทำให้ไทยดูเหมือนเป็นผู้ร่วมผิดด้วย ทั้งที่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้าใส่พื้นที่ประชาชน การพูดหรือการกระทำใด ๆ ต้องระมัดระวัง เพราะคำพูดเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาแผ่นดินไทยและอธิปไตยไทยไว้สูงสุด

เสนอทำรั้วลวดหนาม

ส่วนปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ นายพีระพันธุ์เสนอว่าแนวทางแก้ไขที่ดีที่สุดในวันนี้ คือ การทำรั้วลวดหนาม เพื่อป้องกันการหลบหนีเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านของผู้ก่อการร้าย เหมือนที่เวียดนามเคยทำ ซึ่งจะช่วยให้ง่ายต่อการติดตาม ป้องกัน และการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยต้องทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง

ชูเศรษฐกิจแบ่งปัน

ในด้านเศรษฐกิจ พรรคสามารถช่วยให้ทุกคนประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เช่นเดียวกับการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เคยทำมา โดยสนับสนุนแนวคิดหลักคือ เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน  กำหนดให้ผู้ที่มีรายได้สูงต้องแบ่งปัน 3 สิ่งแก่สังคม คือ 1.แบ่งปันรายได้คืนสู่สังคม เมื่อมีกำไรมาก 2.แบ่งปันความรู้ โดยถ่ายทอดความรู้ที่มีในการทำธุรกิจ การทำมาหากิน หรือความรู้ด้านวิชาการ (เช่น การทำบัญชี) ให้แก่สังคม 3.แบ่งปันโอกาส โดยเฉพาะโอกาสในการทำมาหากินต่าง ๆ ที่สามารถมอบให้แก่ผู้ที่ขาดโอกาส

ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมงาน

พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวเชิญชวนคนรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจเข้าร่วมทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการเชิญชวนครั้งก่อนมีผู้สมัครเข้ามาแล้วกว่า 100 คน ตนเชื่อว่ายังมีคนจำนวนมากที่รักบ้านเมือง สนใจทำงานการเมืองอย่างจริงจัง และเบื่อหน่ายการเมืองรูปแบบเก่า ๆ ที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ จึงขอเชิญชวนคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน โดยมี DNA ที่สำคัญคือ มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้เข้ามาเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเอง ไม่ใช่เข้ามาเพื่อยกระดับฐานะ หรือต้องการสถานะไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว

แบ่งปัน. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“เสธ.แมว” จี้ “อนุทิน” ทำด่วน 2 เรื่องปม “เบน สมิธ” เคลียร์ข้อกังขาโยงถึงนายกฯ ไทย

ธันวาคม 7, 2025

“ธรรมนัส” ตรวจความพร้อมเส้นทางเสด็จฯ พิธีเปิดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กำชับต้องสมบูรณ์แบบ

ธันวาคม 6, 2025

“อนุทิน” ปฏิเสธตอบปม “นายก อบจ.สงขลา” ด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บ เหตุสู้รบเมียนมา

ธันวาคม 6, 2025
ข่าวเด่น

JongFlow Launches International Version of Digital Management Solution for Billiards Clubs, Promoting Technology Democratization with Chinese Expertise

ตุลาคม 9, 202534 Views

มาตรฐานเชื้อเพลิงชีวภาพเจ็ทใกล้เข้ามาแล้ว

ตุลาคม 17, 202511 Views

Mars Petcare ศูนย์พักพิงเปิดตัวโครงการริเริ่มการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม

ตุลาคม 10, 202511 Views
ข่าวล่าสุด

“ทนายเจมส์” เล่าปมคนโทรถามพินัยกรรม ยัน “นัทปง” ไม่เคยมาคุยเรื่องพินัยกรรมด้วย

โดย ห้องข่าวธันวาคม 7, 2025

สมุทรปราการอ่วม “น้ำทะเลหนุนสูง” ทะลักท่วมหลายพื้นที่ แม่ค้าเซ็งเจอปัญหาทุกปี

โดย ห้องข่าวธันวาคม 7, 2025

“เสธ.แมว” จี้ “อนุทิน” ทำด่วน 2 เรื่องปม “เบน สมิธ” เคลียร์ข้อกังขาโยงถึงนายกฯ ไทย

โดย ห้องข่าวธันวาคม 7, 2025
© 2025 ไทยแลนด์ไทมส์. สงวนลิขสิทธิ์.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • ติดต่อ

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Sign In or Register

Welcome Back!

Login to your account below.

Lost password?