“ภราดร” ประชุมศูนย์ประสานงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เตรียมความพร้อมทุกด้าน อำนวยความสะดวกรองรับประชาชนต่างจังหวัดเข้าถวายสักการะพระบรมศพฯ
วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง(ศปพ.) ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยนายภราดร กล่าวว่า ตามที่สำนักพระราชวังได้ออกประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ได้มีมติมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการ เพื่อให้การดำเนินการจัดพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นไปอย่างสมพระเกียรติตามโบราณราชประเพณี
โดยมอบหมายให้สปน. รับไปดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้งให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ รวม 9 คณะ ซึ่งหนึ่งในคณะกรรมการดังกล่าวคือ ศูนย์ ศปพ.โดยมีตนเป็นประธานกรรมการ
นายภราดร กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านสถานที่บริเวณสนามหลวงเพื่อรองรับประชาชนที่จะเข้ากราบพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยกรุงเทพมหานคร ด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน กระทรวงคมนาคม ด้านการจราจรและสถานที่จอดรถยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านการให้บริการดูแลอาหารเครื่องดื่มและการบริจาคสิ่งของสำหรับประชาชน สปน. ด้านการจัดจิตอาสาดูแลประชาชน โดยสำนักงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี ด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน โดยกรมประชาสัมพันธ์ ด้านการแพทย์และการพยาบาลเพื่อดูแลประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร และด้านการติดตามสถานการณ์และการข่าว โดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
ต่อมา ภายหลังการประชุม นายภราดร เปิดเผยว่า เป็นการประชุมครั้งแรกของศูนย์ฯ ซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่แบ่งเป็น 9 คณะ โดยได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการให้บริการประชาชนที่กำลังจะเดินทางเข้ามา กทม. เพื่อมาถวายสักการะพระบรมศพ ซึ่งเราได้เตรียมการหลายส่วนด้วยกัน
นายภราดร กล่าวว่า โดยทราบจากกระทรวงมหาดไทยว่าจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ที่ประสงค์จะเดินทางมา โดยได้วางเป็นกติกาว่าให้ไปดูคิวแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ และลองจัดเวรคิว ว่าสามารถเข้ามาในแต่ละวันด้วยจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจะต้องมีการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาให้มีความสะดวกมากที่สุด ในบริเวณพื้นที่สนามหลวงจะมีการจัดเป็นพื้นที่ศูนย์อำนวยการเพื่อบริการพี่น้องประชาชน อาจจะมีศูนย์บริการเรื่องอาหาร ศูนย์บริการรักษาพยาบาลในบางท่านที่อายุมาก อาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และจะมีศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินไว้บริการ
นายภราดร กล่าวว่า สำหรับกระทรวงคมนาคมจะมีการประสานงานการจราจร และการเคลื่อนย้ายคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพราะการเอารถใหญ่เข้ามาในบริเวณพระราชพิธีทำได้ยาก จึงต้องหาพื้นที่จอดรถด้านนอกพื้นที่พระบรมมหาราชวังและจัดหารถขนส่งประชาชนเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง อาจประสานงานกับจิตอาสา ซึ่งศูนย์นี้จะรับสมัครจิตอาสาเข้ามาบริการประชาชนที่เข้ามาถวายสักการะด้วย ในเบื้องต้น คณะกรรมการขอให้แต่ละหน่วยงานไปดูภารกิจหน้าที่ตนเอง โดยใช้พระราชพิธีเมื่อครั้งสมัยรัชกาลที่ 9 เป็นตัวอย่าง ว่ามีสิ่งใดบ้างที่ต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเดินทางเข้ามาให้ได้มากที่สุด และจะประชุมติดตามความคืบหน้าทุกสัปดาห์ โดยครั้งหน้าจะประชุมวันที่ 3 พ.ย.
จากนั้น นายภราดร เยี่ยมชมศูนย์ ศปพ.ที่ตั้งอยู่ที่เรือนพอเพียง สปน.ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นศูนย์ประสานงานกลางของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกและประสานงานกับทุกภาคส่วน

