เผยแพร่ : 16 มิ.ย. 2567 เวลา 04:16 น
ภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ารัฐบาลคาดว่าเดือนแห่งความภาคภูมิใจในเดือนมิถุนายนจะสร้างกระแสเงินสดให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่า 4.5 พันล้านบาท
นายภูมิธรรม กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า รัฐบาลนำโดยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน กำลังส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ และทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อจัดเทศกาลเดือนแห่งความภาคภูมิใจเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากชุมชน LGBTQ+ ในเดือนนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการค้าของประเทศด้วยการมอบโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยใช้พลังงานอ่อน เขากล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากพูนพงศ์ นัยนาปกรณ์ อธิบดีสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ระบุว่า เทศกาลเดือนแห่งความภาคภูมิใจจะทำให้ประเทศไทยเป็น “จุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรต่อความภาคภูมิใจ” สำหรับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในกลุ่ม LGBTQ+
จะช่วยผลักดันประเทศให้เข้าใกล้การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคมากขึ้น ภายใต้นโยบาย “จุดประกายการท่องเที่ยวประเทศไทย” ของรัฐบาล มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 55 จังหวัดที่ “น่าไปเยือน”
นอกจากนี้ เขากล่าวว่าเทศกาลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจปลายน้ำ รวมถึงผู้จัดงาน ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม และบริการขนส่ง และยังช่วยให้รายได้กระจายไปยังพื้นที่ท้องถิ่นอีกด้วย
นายภูมิธรรมกล่าวว่าการเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจครั้งแรกของประเทศไทยจัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 ปัจจุบันจัดขึ้นในหลายจังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี โดยมีขบวนพาเหรด กิจกรรม และการรณรงค์ต่างๆ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าการเฉลิมฉลองในปีนี้จะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้มากกว่า 860,000 คน และสร้างกระแสเงินสดให้กับเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 4.5 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ปรึกษาทางการเงิน LGBT Capital เมื่อเร็วๆ นี้ประเมินว่าประชากร LGBTQ+ ทั่วโลกมีกำลังซื้ออยู่ที่ 4.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ประชากรที่มีความหลากหลายทางเพศของไทยมีกำลังซื้ออยู่ที่ 26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ