รอง ผอ.โครงการ รฟม. สายสีม่วงฯ แถลงความคืบหน้าเหตุ “ถนนทรุด” เตรียมฉีดเกราท์เสริมความแข็งแรงของดิน สลับนำหุ่นยนต์รื้อถอนอาคาร ล่าสุดถมทรายแล้ว 4,500 ลบ.ม. ย้ำต้องประเมินความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 5 ต.ค. 68 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุหลุมยุบ หน้า รพ.วชิรพยาบาล เขตดุสิต นายวัชรพล คงสวัสดิ์ ผอ.ฝ่ายบริหารงานก่อสร้าง 2 ในฐานะรอง ผอ.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) พร้อมด้วย นางวรัญญา ลีลาบูรณพงศ์ ผอ.เขตดุสิต ผศ.นพ.อนุแสง จิตสมเกษม ผอ.รพ.วชิรพยาบาล ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขถนนทรุดบริเวณหน้า รพ.วชิรพยาบาล และการรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน รวมถึงการเฝ้าระวังอาคารโดยรอบ
นายวัชรพล กล่าวว่า เมื่อวานนี้หลังการประชุมคณะทำงานตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารและพื้นที่โดยรอบ กรณีถนนทรุดตัวบริเวณสามเสน มีมติให้มีการรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน โดยเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย ประกอบกับช่วงเที่ยงมีฝนตกลงมา สำนักระบายน้ำ กทม. และ สปภ.กทม. ได้สูบน้ำออกหลังฝนตก จากนั้นช่วงกลางคืน รฟม. ได้นำเครื่องจักรเป็นหุ่นยนต์เข้ามาตัดชิ้นส่วน เริ่มจากฝั่งขวาของอาคารเฝ้าระวัง เมื่อวานช่วงเย็นมีการตัดตอม่อที่อยู่ขวาสุดด้านล่างเพื่อให้น้ำหนักลดลง ช่วงกลางคืนใช้หุ่นยนต์คีบด้านบนของโครงอาคาร
ส่วนช่วงสายวันนี้ เจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้รับเหมาขึ้นกระเช้าเพื่อไปรื้อโครงอาคาร ตามแผนจะเริ่มดำเนินการรื้อจากด้านขวาของตัวอาคารเข้ามา อย่างไรก็ตามเนื่องจากพื้นที่บริเวณหน้างานค่อนข้างจำกัด จึงดำเนินการควบคู่ไป โดยครึ่งวันตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงดำเนินการถมทรายไปแล้ว 700-800 ลบ.ม. รวมปริมาณทั้งหมด 4,500 ลบ.ม. และเริ่มปรับสภาพพื้นที่ทรายเพื่อให้ไปยันพื้นที่ในฝั่งแยกวชิระ
นายวัชรพล กล่าวต่อไปว่า ส่วนการทำงานในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากปรับพื้นที่แล้ว จะนำเครื่องมือลงไปติดตั้งเพื่อทำ TAM Grout โดยการฉีดน้ำยาพิเศษลงไปในดินเพื่อปรับปรุงคุณภาพดินให้แข็งแรงขึ้น สำหรับการรื้อตัวอาคารนั้น จะดำเนินการรื้อทั้งหมด แต่จะค่อยๆ รื้อจากฝั่งขวา พร้อมประเมินความเสี่ยงระหว่างรื้อด้วยเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ช่วงระหว่างรื้ออาคารนั้นจะสลับกับการถมทรายทางด้านล่างด้วย ส่วนการทรุดตัวของอาคาร ขณะนี้พบว่าทรุดตัวของตอม่อลงจากเดิมประมาณ 20-50 ซม.แล้ว แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
“เนื่องจากพื้นที่หน้างานค่อนข้างจำกัด ดังนั้นเราจึงจะสลับกันทำกันระหว่างการทำ TAM Grout เพื่อเสริมความแข็งแรงของดินกับการนำหุ่นยนต์เข้ารื้อถอนอาคารด้านบน เหมือนกับช่วงก่อนที่จะลงทรายเราก็ได้นำเสาไฟและเศษวัสดุออกก่อน เพราะฉะนั้นตามแผนในช่วงบ่ายถึงเย็นจะเป็นการฉีดเกราท์ และช่วงกลางคืนจะนำหุ่นยนต์เข้ารื้อถอนสลับกันโดยไม่หยุดกิจกรรม”
ส่วนการนำหุ่นยนต์เข้ารื้อถอน จะทำให้ส่วนใดเพิ่มเติมนั้น นายวัชรพล ระบุว่า ขณะนี้ทีมงานอยู่ระหว่างการวิเคราะห์โครงสร้างเนื่องจากอาคารเป็นตัวแผ่นพื้น post-tension ต้องมีการประเมินหากจะตัดพื้นก็ต้องประเมินเพื่อไม่ให้ตัวอาคารร้าวด้วย ทีมผู้รับจ้างกำลังวิเคราะห์อยู่ ทั้งนี้ การดำเนินการรื้อจะต้องทำด้วยความปลอดภัย ทำไปทีละส่วนไม่สามารถทำไปคราวเดียวเพราะอาจจะส่งผลกระทบถึงด้านล่าง รวมถึงการปรับพื้นผิวถนนด้วย
ด้าน ผศ.นพ.อนุแสง ระบุว่า ในส่วนของตัวอาคารวันนี้ได้รับรายงานว่ายังปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวของตัวอาคารโดยตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ยังปกติอยู่ ส่วนวันนี้เป็นวันหยุดมีผู้มาใช้บริการประมาณ 100 ราย จึงไม่มีปัญหาเรื่องการจราจร โดยวันนี้ไม่ได้มีการให้บริการรถชัทเทิลบัส แต่พรุ่งนี้ก็จะมีการให้บริการเหมือนเดิม และจะมีผู้เข้ารับบริการประมาณกว่า 3,000 คน ส่วนเส้นทางสัญจรในการมายังโรงพยาบาล
เบื้องต้น คาดว่าขณะนี้รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 4,000-5,000 คนต่อวัน พร้อมยอมรับว่ายังมีความกังวลเรื่องการเปิดภาคเรียนของนักเรียนในพื้นที่โดยรอบประมาณ 5,000-7,000 คน ช่วงปลายเดือน ต.ค. 68 นี้ อาจทำให้การจราจรติดขัด โดยต้องมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่าง 6-7 คน ได้ขึ้นกระเช้าของรถเครน ขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าของ สน.สามเสน เพื่อทำการรื้อโครงหลังคาและแผ่นหลังคาเมทัลชีท เพื่อลดแรงต้านของลม นอกจากนี้ยังขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งถอดเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดน้ำหนักในตัวอาคารอีกด้วย ซึ่งโรบอตที่จะเข้าไปรื้ออาคาร ยังคงต้องประเมินสถานการณ์เบื้องหน้าตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย





