เจ้าหน้าที่นำร่าง หญิงไทย ตกตึกในปอยเปตเสียชีวิต กลับถึงไทยแล้ว ด้าน ตร. สั่งอายัดศพ ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังมีกระแสข่าวโยงธุรกิจเทรดหุ้น-ทองคำ
วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณหน้าด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วว่า เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ขณะที่เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยอรัญประเทศเตรียมดำเนินการรับศพหญิงไทยที่เสียชีวิตจากการพลัดตกอาคารในฝั่งปอยเปต จังหวัดบันเตียเมนเจย ประเทศกัมพูชา กลับมายังประเทศไทย
นายเบิร์ด เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “IMF” เผยว่า ขณะนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้มอบอำนาจให้กู้ภัยอรัญประเทศ เป็นผู้ดำเนินการประสานรับศพออกมาจากฝั่งกัมพูชา โดยหลังจากนี้จะมีการหารือกับทางญาติอีกครั้งว่าจะนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดในบ้านเกิด หรือดำเนินการในรูปแบบใดต่อไป
นายเบิร์ด เผยด้วยว่า ผู้เสียชีวิตเคยทำงานเป็นพีอาร์ในฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่ช่วงที่ด่านยังเปิดตามปกติ และไม่ได้กลับมาฝั่งไทย แม้ภายหลังด่านจะปิดไปแล้ว ต่อมาทราบว่าน้องเพิ่งสูญเสียแฟนไปเมื่อประมาณ 3–4 เดือนก่อน คาดว่าอาจมีภาวะเศร้าสะสมจนส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ และอาจทำให้เข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการเทรดหุ้นและเงินจำนวน 18 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่า จากข้อมูลล่าสุดผู้ตายไม่ได้มีส่วนร่วมกับขบวนการดังกล่าวโดยตรง เพียงแต่เคยยืมเงินจากกลุ่มบุคคลที่อยู่ในเครือข่ายนี้ในลักษณะ “ให้โดยเสน่หา”
นายเบิร์ด ยังกล่าวอีกว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนหน้าตาดี และอาจถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มคนบางกลุ่มจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ขณะนี้ทางญาติยังติดใจบางประเด็น แต่ขอให้ดำเนินการนำศพกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุดก่อน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา จากนั้นจึงจะพิจารณาดำเนินการในส่วนอื่นตามขั้นตอนต่อไป
จากนั้นเวลา 12.00 น. ทางการกัมพูชาได้ส่งมอบศพของผู้เสียชีวิตกลับมายังฝั่งไทย ผ่านทางด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปยังวัดวุฒาราม จังหวัดขอนแก่น ตามที่มารดาผู้ตายได้มอบอำนาจไว้
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศพถูกนำมาถึงฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่ ได้มีคำสั่งอายัดศพไว้ชั่วคราว และห้ามเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมายไทย คาดว่าจะส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ หรือสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า อาคารที่ผู้ตายพลัดตกลงมานั้น เป็นสถานที่ดำเนินกิจการเทรดหุ้นหรือทองคำ ซึ่งมีทุนจีนเป็นเจ้าของ โดยเบื้องต้นพบข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจเทรดหุ้นหรือทองคำดังกล่าว มูลค่ากว่า 15–18 ล้านบาท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต

