วัณโรคเทียมเกิดจากสาเหตุใด และคนที่ร่างกายแข็งแรงมีโอกาสป่วยด้วยโรคนี้หรือไม่ ทำให้หลายคนสังเกตตัวเอง ภายหลังนพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ ออกมาเปิดเผยเคสหญิงวัย 64 ปีรายหนึ่ง ติดเชื้อวัณโรคเทียม ทั้งๆ ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ร่างกายแข็งแรงดี เริ่มจากมีไข้ ไอ มีเสลดข้นเหนียว เหนื่อย ไม่มีน้ำมูก ไม่เจ็บคอ และไม่พบโควิด แม้ได้ยาปฏิชีวนะ ทำให้ไข้ลดลง แต่ยังไอมีเสลดมาก จนน้ำหนักลดลง 3 กก. สุดท้ายพบว่ารับเชื้อโรคจากปุ๋ยคอกมูลวัว เพราะชอบทำสวน ปลูกต้นไม้ ส่งผลให้ติดเชื้อวัณโรค หรือวัณโรคเทียม
นพ.มนูญ ยังเคยระบุว่า วัณโรคเทียมมีหลายชนิด บางชนิดรักษายากกว่าวัณโรคแท้ ต้องมีการวินิจฉัยและรักษา ด้วยการเพาะเชื้อและตรวจหาความไวต่อยา เพื่อให้รู้ว่าเป็นเชื้อวัณโรคเทียมชนิดใด เพื่อการให้ยารักษา และก่อนหน้านี้ก็มีผู้ป่วยติดเชื้อวัณโรคเทียม จากการเป่าพื้นรองเท้ากอล์ฟด้วยลมเพื่อกำจัดเศษดินและหญ้า ทำให้เชื้อโรคที่ปนเปื้อนในดินที่เกาะใต้รองเท้า ลอยขึ้นมาในอากาศ และหายใจเข้าปอด ซึ่งคนปกติส่วนใหญ่ไม่เป็นอะไร หรือน้อยคนมากที่ป่วย และโรคนี้ไม่ติดต่อระหว่างคนสู่คน
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajSwDV3VuHluGZzmfDwL8SlDdbipRl.jpg)
วัณโรคเทียม มักดื้อยา กระจายตัวในธรรมชาติทั้งดิน-น้ำ
ข้อมูลกรมควบคุมโรค ระบุว่า วัณโรคเทียม เกิดจากการติดเชื้อมัยโคแบคทีเรียกลุ่มที่ไม่ได้ก่อให้เกิดวัณโรค (Nontuberculous Mycobacteria) หรือ NTM มีการกระจายตัวอยู่ในธรรมชาติสูงทั้งในดิน น้ำ และอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคในคนที่มีโรคปอดอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ที่มีความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ที่ติดเชื้อ HIV ผู้สูงอายุ ผู้ที่เคยป่วยเป็นวัณโรค โดยการติดเชื้อนี้จะมีผลต่อการเกิดโรคบริเวณปอด ต่อมน้ำเหลือง หรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งผิวหนัง ส่วนคนที่มีปอดปกติเมื่อหายใจเอาเชื้อวัณโรคเทียมเข้าไป จะไม่ก่อให้เกิดโรค
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajSwDV3VuHluGZzmvUEllnSuRUnjiB.jpg)
ปัจจุบันพบว่า ผู้ติดเชื้อ NTM มักดื้อยารักษาวัณโรค หากมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อ NTM ออกจากผู้ป่วยวัณโรค จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากไม่มีการตรวจคัดแยกผู้ติดเชื้อ NTM ออกจากผู้ป่วยวัณโรค จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจส่งผลให้มีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
อาการผู้ป่วยวัณโรคเทียม คล้ายผู้ป่วยวัณโรค เนื่องจากการติดเชื้อส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นที่ปอด อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไข้ ไอเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ เหนื่อยง่าย เสมหะเป็นเลือด น้ำหนักลด เบื่ออาหาร เหงื่อออกในตอนกลางคืน อ่อนเพลีย และยังพบอาการอื่นๆ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการติดเชื้อ เช่น ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ หรือขาหนีบ ผื่นผิวหนัง ฝี หรือแผลเรื้อรัง
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajSwDV3VuHluGZzmyxFkQ198gYG0ig.jpg)
วัณโรคเทียม มีกว่า 140 สายพันธุ์ ภูมิคุ้มกันต่ำ เสี่ยงสูง
ขณะที่วัณโรค หรือ TB (Tuberculosis) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis ในกลุ่ม Mycobacterium tuberculosis complex เกิดได้ในทุกอวัยวะของร่างกาย ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นที่ปอด และเชื้อ Mycobacterium แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1. Mycobacterium tuberculosis complex (MTBC) เป็นสาเหตุของวัณโรคในคนและสัตว์ 2. Nontuberculous mycobacteria (NTM) หรือวัณโรคเทียม มีมากกว่า 140 สายพันธุ์ เป็นเชื้อมัยโคแบคทีเรียที่ไม่ก่อโรควัณโรค มักก่อโรคในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และมีอุบัติการณ์ของการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และ 3. Mycobacterium leprae เชื้อมัยโคแบคทีเรีย สาเหตุของโรคเรื้อน
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04ajSwDV3VuHluGZzmlUPNTVI8RFlVAo.jpg)
ข้อมูลองค์การอนามัยโลก (WHO) ปี 2566 ประมาณการว่ามีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ 111,000 กว่ารายต่อปี และมีการเสียชีวิตจากวัณโรคกว่า 12,000 รายต่อปี หากสังเกตตัวเองว่ามีอาการเหล่านี้ หรือสงสัยว่าป่วยวัณโรค ควรรีบไปตรวจหาการป่วยเป็นวัณโรคโดยเร็ว ด้วยการเอกซเรย์ปอดและตรวจเสมหะ เพื่อเข้าสู่กระบวนการการรักษาตามมาตรฐาน และสามารถป้องกันการป่วยเป็นวัณโรคได้ด้วยการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการไอ และตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง.