อาการไฟลนก้นอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว

“นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เหยียบคันเร่งนโยบายแจกเงินหมื่น ล่าสุดเรียกประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ วันที่ 27 มี.ค.2567 ยืนยันความจำเป็น เดินหน้าสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กู้วิกฤติปากท้องประชาชน

มอบโจทย์สำคัญกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เร่งเคลียร์ที่มาแหล่งงบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท โดยไม่ต้องผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน

กำหนดแมตช์ไฟนอล วันที่ 10 เม.ย.นี้ ต้องได้ข้อสรุปชัดเจน วิธีดำเนินการโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ขีดเส้นเน้นๆเงินหมื่นต้องถึงมือประชาชนภายในไตรมาส 4 ปี 2567

ดิจิทัลวอลเล็ตถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว ถึงเวลาต้องเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน ไม่ใช่มีแต่ความหวังลมๆแล้งๆ เลื่อนแล้วเลื่อนอีก

“นายกฯนิด” หลังพิงฝา สถานการณ์ไฟต์บังคับต้องเร่งโชว์ผลงานในห้วงที่เรตติ้งพรรคเพื่อไทยต่ำเตี้ยเรี่ยราด ตรงข้ามกับคะแนนนิยมพรรคก้าวไกลดีวันดีคืน จะถูกทุบ ถูกนวดแค่ไหน ก็เหมือนยิ่งตียิ่งโต

ความจริงที่เห็นตำตา ผลสำรวจนิด้าโพลสะท้อนชัด คะแนนนิยมค่ายสีส้มนำสุดกู่ ชาวบ้านเทใจสนับสนุน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แกนนำพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมอยากให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ

เครื่องจักรสีส้มแรงไม่ตก นำโด่งทั้งคะแนนส่วนบุคคลและคะแนนพรรค ทิ้งห่างทั้ง “นายกฯนิด” แม้กระทั่ง “อุ๊งอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังถูกทิ้งขาดไม่เห็นฝุ่น

ทั้งแต้มตัวบุคคลและแต้มพรรค เพื่อไทยได้ไม่ถึงครึ่งของก้าวไกล

ก้าวไกลยิ่งตียิ่งโต คนละโหมดกับเพื่อไทยที่ยิ่งโตยิ่งตัน

สถานะการเป็นนายกรัฐมนตรีของ “นายกฯนิด” ไม่ได้ช่วยชิงความได้เปรียบ ดึงความนิยมเพิ่มแต้มให้พรรคเพื่อไทย

เพราะการยอมตระบัดสัตย์ พลิกขั้วจับมือ 2 ลุง ตั้งรัฐบาล หวังผลเรียกคะแนนจากการสร้างผลงานเข้าตาประชาชน แต่สุดท้ายกลับน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิม ไม่รู้จะได้คุ้มเสียหรือไม่

เวลายิ่งทอดยาวคะแนน 2 พรรค ยิ่งทิ้งห่างกันมากขึ้น

ซ้ำยังมีช่องทางให้พรรคก้าวไกลได้ปั่นแต้มเพิ่ม จากการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ วันที่ 3-4 เม.ย. เวทีลับมีดกะซวกรัฐบาล รอช้อนคะแนนได้อีกเป็นกอบเป็นกำ และตัดแต้มคู่แข่งไปในตัว

ก้าวไกลฆ่าไม่ตาย ยิ่งถูกเจาะยางมากเท่าไร คะแนนสงสารก็ยิ่งไหลมาเทมา

ระดับที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ต้องลนลาน อยู่นิ่งไม่ได้ ออกโรงโชว์ตัวถี่ยิบ หวังกู้สถานการณ์เพื่อไทยแต้มฮวบ

กลับถิ่นเกิดไปเปิดตัว จ.เชียงใหม่ โฉบไปเสริมหล่อ ตัดผมที่สีลม เช็กเสียงตอบรับที่บ้านเกิด และย่านธุรกิจใจกลางกรุง ล่าสุดกระโจนเข้าพรรคเพื่อไทย เติมพลังความฮึกเหิมลูกพรรค มีรัฐมนตรี สส. แฟนคลับล้อมหน้าล้อมหลัง แห่ต้อนรับเต็มไปหมด

ไปๆมาๆกลายเป็นนายใหญ่ติดลม เลิกกั๊กอาการป่วย จ่อวางโปรแกรมเดินสายถี่ยิบ วางคิวตระเวนลงพื้นที่พบประชาชน เคลื่อนไหวหนักขึ้นเป็นลำดับ

อดีตนายกฯกำลังฮึกเหิม กลายเป็นศูนย์กลางจักรวาลพรรคเพื่อไทย ทุกอย่างถูกเคลมเป็นผลงานของ “ทักษิณ” ทั้งหมด โชว์รัศมีข่มนายกฯตัวจริง

นาทีนี้ไม่เกรงคำว่าครอบงำพรรค ยิ่ง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุการเดินทางเข้าพรรคของนายทักษิณยังไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่า เข้าข่ายครอบงำพรรค

ก็ไม่รู้จะเติมความย่ามใจนายใหญ่หนักขึ้นหรือไม่

จังหวะได้ใจขยับกินเบอร์ แม้กระทั่งกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำแดงสายฮาร์ดคอร์ ที่ขอลี้ภัยต่างแดน จู่ๆก็รีบเดินทางกลับประเทศไทย มอบตัวสู้คดีอั้งยี่ที่ต้องหนีออกนอกประเทศ

เหมือนได้สัญญาณทางบวกให้กลับประเทศมาสู้คดี ต้องจับตาจะมีอภิสิทธิ์ชนทางคดีอีกหรือไม่

นายใหญ่ฉวยโอกาสช่วงภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง โชว์พลังวัดใจต่อรองดีลอำนาจ ไม่เป็นลูกไล่ให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมล็อกคอข่มง่ายๆ เหมือนเดิม!!!

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม

แบ่งปัน.
Exit mobile version