สมุยตั้งเป้าไฮซีซั่นเพื่อการเติบโต

ขณะที่ฤดูท่องเที่ยวของอ่าวไทยกำลังใกล้เข้ามา ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในสมุยคาดการณ์ว่าการเติบโตจะมาจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ขยายเวลาทำการของสนามบินเพื่อเพิ่มเที่ยวบินอีก 20 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ 10-20%

นางรัชภรณ์ พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า ในช่วงไฮซีซั่น เกาะสมุยคาดว่าสถานการณ์จะฟื้นตัวได้เต็มที่ เนื่องจากสนามบินสมุยสามารถกลับมาให้บริการเที่ยวบินได้เต็มรูปแบบแล้ว

เขากล่าวว่าตลาดแหล่งที่มาหลักๆ ได้แก่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ได้นานขึ้น เนื่องจากมีการออกวีซ่าขยายเวลาสูงสุด 60 วันให้กับ 93 ประเทศ

นายรัชภรณ์ คาดว่าอัตราการเข้าพักโรงแรมจะสูงถึง 80-90% ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาพีคของอ่าวไทย โดยมีเที่ยวบินเพิ่มเติมไปยังสนามบินสุราษฎร์ธานีที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงบริการเรือข้ามฟาก

เขากล่าวว่างานปาร์ตี้ฟูลมูนที่จัดขึ้นทุกเดือนที่เกาะพะงันนั้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 50,000 คนต่องานในช่วงไฮซีซั่น

งานเทศกาล Pride Nation Samui International เมื่อเดือนที่แล้วช่วยประชาสัมพันธ์เกาะแห่งนี้ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว นายรัชพร กล่าว

เขากล่าวว่าห้องพัก 30,000 ห้องบนเกาะนี้อาจเพียงพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามา แต่โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งไม่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจุที่จำกัดของสนามบิน รวมถึงเรือที่มีไม่เพียงพอ

สนามบินสมุยสามารถรองรับเที่ยวบินได้ประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน ให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น.

ปลายเดือน ก.ค. ท่าอากาศยานเตรียมจัดประชาพิจารณ์กับประชาชนในพื้นที่และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เรื่องขยายเวลาให้บริการเพิ่มเป็น 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ในตอนเช้าและดึก” นายรัชภรณ์ กล่าว

จากการศึกษาพบว่าสนามบินแห่งนี้สามารถรองรับเที่ยวบินได้ 73 เที่ยวบินต่อวัน ช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวให้เกาะได้ 2,000 คนต่อวัน

เขากล่าวว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสมุยจะเพิ่มขึ้น 10-20% จาก 3.4 ล้านคนที่บันทึกไว้เมื่อปีที่แล้ว

มีผู้ประกอบการเรือข้ามฟาก 3 รายที่เป็นเจ้าของเรือลำละ 10 ลำ และบริษัทเหล่านี้กำลังเพิ่มจำนวนกองเรือเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น นายรัชภรณ์ กล่าว

ในขณะที่รัฐบาลกำลังพิจารณายกเลิกกฎห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. เขากล่าวว่าหากผ่อนปรนกฎดังกล่าวจะส่งผลให้การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

รัฐบาลยังควรจำกัดการดื่มในพื้นที่ส่วนตัวและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนและป้องกันอาชญากรรม” นายรัชภรณ์ กล่าว

เขากล่าวว่า หลังจากที่บาร์และสถานที่บันเทิงต่างๆ ได้รับอนุญาตให้เปิดให้บริการได้จนถึงตี 4 ทั้งภาคส่วนสาธารณะและเอกชนต่างก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถดูแลปัญหาความปลอดภัยได้ เขากล่าว