คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 แล้ว เช่น ห้ามนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง ห้ามผู้ประกอบอาชีพทางวิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ นักแสดง นักร้อง หรือพิธีกร ไม่ให้ใช้ความสามารถส่วนตัวเพื่อเกื้อประโยชน์การแนะนำตัว
มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกหลายประการ นอกจากนั้น กกต.ยังออกข่าวฉบับที่ 1/2567 เรื่องการจูงใจชี้ชวนบุคคลมารวมกลุ่มเพื่อเสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งเป็น สว.ไม่อาจทำได้ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย กกต.เตือน
เรื่องนี้ หลังจากที่มีกลุ่มบุคคลหลายอาชีพ 20 กลุ่ม ออกมารณรงค์ให้สมัคร สว.
คำเตือนของ กกต. ร้อนถึงคณะก้าวหน้า ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธาน ที่ออกมารณรงค์ประชาชน ให้มีส่วนร่วมเพื่อใช้ “เสียงอิสระ” เลือก สว.ใหม่ ทำให้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ออกมาตอบโต้ว่าเป็นการเล่นการเมือง ได้ยินข่าวมาว่ากังวลมาก เรื่อง สว.สีส้ม จะได้มาเยอะ จึงต้องสกัดกั้น
ข้อห้ามต่างๆของ กกต.เกี่ยวกับการแสดงตัว หรือการหาเสียงของผู้สมัคร สว.อาจนำไปสู่การโต้เถียง ในประเด็นว่า รัฐธรรมนูญ 2560 จะจำกัดหน้าที่ และอำนาจ กกต.ไว้เพียงควบคุมการเลือกตั้ง และการลงประชามติ ให้เป็นไป ด้วยสุจริตและเที่ยงธรรมเท่านั้น กกต. น่าจะมีบทบาทมากกว่านี้
แต่น่าจะขยายหน้าที่ กกต.ให้มีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุน หรือประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ หรือสนับสนุนองค์กรประชาชนในการให้การศึกษาทางการเมือง หรือการปกครองระบอบประชาธิปไตย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญบางฉบับ
แต่ถูกฉีกทิ้งโดยกลุ่มอำนาจนิยม ที่ไม่เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตย การให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชน ทั้งทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เป็นสิ่งที่ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกยึดถือ มิฉะนั้นอาจทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ขาดศรัทธาในองค์กรอิสระ ที่คิดแต่จะปิดปากปิดตาและปิดหูของประชาชน
ไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนในโลกให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้ง แต่ห้ามผู้สมัครหาเสียง หรือใช้ความสามารถส่วนตัวเพื่อจูงใจให้มีความศรัทธาเลื่อมใสในตัวผู้สมัคร หรือนโยบายของผู้สมัคร การเลือกตั้งเป็นการให้การศึกษาในด้านการเมืองต่อประชาชนในภาคปฏิบัติต้องไม่มีการปิดปากผู้สมัคร ปิดหูปิดตาประชาชน.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม