Close Menu
ไทยแลนด์ไทมส์
  • หน้าแรก
  • ประเทศไทย
  • การเมือง
  • เศรษฐศาสตร์
  • กีฬา
  • บันเทิง
  • เทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • กำลังมาแรง
มีอะไรเกิดขึ้น

เปลี่ยนแร่ธาตุสำคัญให้เป็นมูลค่าที่แท้จริง

ย้อนวิถีชีวิตสมัยสุโขทัย เที่ยวตลาดแลกเบี้ย ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ

“สส.ไอซ์” แฉ กระบวนการฟอกเงิน ผ่านเว็บลอตเตอรี่ ฟอกเงินดำเป็นขาว

ทหารเปิดเส้นทางเลียบชายแดนไทย–กัมพูชา พบทุ่นระเบิด PMN-2 วางใหม่ในฝั่งไทย

“ชนนพัฒฐ์” ยืนยันหนักแน่น ผมไม่เกี่ยวกับสแกมเมอร์ เหน็บพ่อหนุ่มหน้ามนหิวแสง

Facebook X (Twitter) Instagram
ไทยแลนด์ไทมส์
Facebook X (Twitter) Instagram Pinterest
  • หน้าแรก
  • ประเทศไทย
  • การเมือง
  • เศรษฐศาสตร์
  • กีฬา
  • บันเทิง
  • เทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • กำลังมาแรง
ไทยแลนด์ไทมส์
You are at:Home » อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ต่ำช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน
เศรษฐศาสตร์

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ต่ำช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน

ห้องข่าวโดย ห้องข่าวตุลาคม 28, 20251 อ่านนาที
แบ่งปัน Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์นี้หลังจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนกันยายนต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้เกิดการมองในแง่ดีว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในปลายสัปดาห์นี้

จากข้อมูลของบล.เอเชีย พลัส (ASPS) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเพียง 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้ตลาดปรับราคาให้มีความน่าจะเป็น 98.3% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่กระตุ้นให้กองทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

ความเชื่อมั่นยังดีขึ้นจากสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ตลอดจนการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถช่วยคลายความตึงเครียดในภูมิภาคได้

นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่ารวม 7.7 พันล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นในตลาดเกิดใหม่

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนถึงแรงกดดัน “ขายตามความเป็นจริง” ที่อาจเกิดขึ้นหลังวันที่ 30 ต.ค. หากการเจรจาการค้าระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งล้มเหลวในการบรรลุความก้าวหน้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการพิจารณาคดีภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดในวันที่ 5 พ.ย.

นอกเหนือจากการมองโลกในแง่ดีแล้ว ข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งทรัมป์เฝ้าสังเกตนั้น ได้รับการลงนามอย่างประสบความสำเร็จ และคาดว่าจะช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดนได้

การพัฒนานี้ควบคู่ไปกับความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และไทย คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ASPS กล่าว

ในด้านภายในประเทศ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เปิดเผยว่า หุ้นของเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) พุ่งขึ้นกว่า 10% เมื่อวันจันทร์ แตะระดับสูงสุดที่ 231 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แข็งแกร่งขึ้น

FSS คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสที่สี่ของ DELTA จะเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสและ 67% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้แรงหนุนหลักจากธุรกิจศูนย์ข้อมูลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในส่วนของ AI และที่ไม่ใช่ AI

รายได้ค่าธรรมเนียมของบริษัทคาดว่าจะคิดเป็น 5-6% ของรายได้ทั้งหมด โดยฝ่ายบริหารตั้งเป้าการเติบโต 15-20% ต่อปีในปี 2569 ในขณะที่การขยายศูนย์ข้อมูลเร่งตัวขึ้น

แมสเทค ลิงค์ (MASTEC) จดทะเบียนใหม่ เปิดตัวอย่างแข็งแกร่งใน SET เปิดตัวที่ 1.78 บาท เพิ่มขึ้น 22.7% จากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 1.45 บาท ได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของตลาดที่เป็นบวก

บริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรม และให้บริการโซลูชั่นด้านการออกแบบ การติดตั้ง และการบำรุงรักษาแบบครบวงจร ซึ่งเป็นภาคส่วนที่เตรียมพร้อมที่จะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังดำเนินอยู่ของประเทศไทยและการลงทุนด้านพลังงานสะอาด

ช่วงเช้า SET Index ขยับขึ้นมาสูงสุดที่ 1,345.86 จุด เพิ่มขึ้น 31.95 จุด ก่อนปิดที่ 1,330.19 จุด เพิ่มขึ้น 1.24%

วิลาสินี บุญมะสังสง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็กซ์ กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในประเทศ รวมถึงโครงการจ่ายร่วม “คนละเครื่องพลัส” และแคมเปญการท่องเที่ยว “เที่ยวดีมีชื่น” คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคส่งท้ายปี

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานจะเปิดตัวโครงการพลังงานสะอาดที่สำคัญ 4 โครงการในเดือนพฤศจิกายน รวมถึงโซลาร์ฟาร์มชุมชนและปั๊มโซลาร์เพื่อการเกษตร ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท

ธปท.คาด GDP ไตรมาส 3 เติบโต 1.5% ก่อนจะผ่อนคลายลง 1.3% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

ซึ่งจะทำให้การเติบโตทั้งปีอยู่ที่ 2.2% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

ในด้านสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากการพุ่งขึ้นนานเก้าสัปดาห์มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 4,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ในวันจันทร์ เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ผ่อนคลายลงได้เปลี่ยนอุปสงค์ให้ห่างไกลจากแหล่งหลบภัย

อย่างไรก็ตาม JPMorgan และ Goldman Sachs ยังคงมีภาวะกระทิง โดยคาดการณ์ว่าทองคำจะเกิน 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปี 2569-2570 โดยได้รับการสนับสนุนจากการซื้อของธนาคารกลางและสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลง

แบ่งปัน. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปลี่ยนแร่ธาตุสำคัญให้เป็นมูลค่าที่แท้จริง

ตุลาคม 31, 2025

ทรัมป์เสนอความช่วยเหลือเล็กน้อยสำหรับอาเซียน เศรษฐศาสตร์กล่าว

ตุลาคม 30, 2025

คุณภาพสินเชื่อยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตุลาคม 30, 2025
ข่าวเด่น

JongFlow Launches International Version of Digital Management Solution for Billiards Clubs, Promoting Technology Democratization with Chinese Expertise

ตุลาคม 9, 202534 Views

Mars Petcare ศูนย์พักพิงเปิดตัวโครงการริเริ่มการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม

ตุลาคม 10, 202511 Views

Galaxy Resorts เรียกร้องให้มีกลยุทธ์หรูหราเพื่อเพิ่มการเติบโตสูงสุด

สิงหาคม 6, 202511 Views
ข่าวล่าสุด

บอร์ดคุรุสภา เคาะเกณฑ์ใหม่ “สอบตั๋วครู” ยกเลิกวิชาเอกเหลือเฉพาะวิชาครู มีผล ม.ค. 69

โดย ห้องข่าวตุลาคม 31, 2025

รัฐบาลชวนร่วมโครงการ “เที่ยวดีมีคืน 2568” เที่ยวเมืองรองลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า

โดย ห้องข่าวตุลาคม 31, 2025

ร่างหญิงไทย ตกตึกปอยเปตถึงไทยแล้ว เจ้าหน้าที่อายัดศพ ส่งชันสูตรหาสาเหตุ

โดย ห้องข่าวตุลาคม 31, 2025
© 2025 ไทยแลนด์ไทมส์. สงวนลิขสิทธิ์.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • ติดต่อ

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Sign In or Register

Welcome Back!

Login to your account below.

Lost password?