เรื่องเซ็กซ์ในยุคหนึ่งของสังคมไทย ถูกมองเป็นเรื่องสกปรก ลามกสัปดน ไม่ควรพูดอย่างเปิดเผย และอย่าหวังว่าเรื่องรสนิยมชื่นชอบเพศเดียวกันจะได้รับการยอมรับ ยิ่งถูกรังเกียจอย่างหนัก จากการถ่ายทอดเรื่องราวยุค 70 ในซีรีส์ฮิต “ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียว” แต่กลับมีการแหกกฎเรื่องต้องห้าม มีคอลัมน์ตอบปัญหาทางเพศเรื่องลับๆ ในหนังสือพิมพ์ เพื่อเพิ่มยอดขาย และท้าทายสังคมปากว่าตาขยิบ ได้อย่างเมามัน

แตกต่างกับปัจจุบัน มีการเปิดกว้างสามารถพูดถึงเรื่องเพศ เรื่องเซ็กซ์ได้อย่างเปิดเผย และยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่เมื่อมองย้อนไปถึงหลักสูตรเพศศึกษาของเด็กไทย อาจดูล้าหลังเนื้อหาไม่ครอบคลุมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากพอ ตั้งแต่รัฐบาลไทยบรรจุวิชาเพศศึกษาไว้ในแบบเรียนเป็นครั้งแรกในปี 2521 ยังมีปัญหาหลายด้านที่เด็กไทยไม่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะทักษะชีวิตในการแก้ปัญหาทางเพศที่ถูกต้อง

เด็กยุคใหม่ เข้าถึงเรื่องเซ็กซ์ง่าย แต่อ่อนด้อยแก้ปัญหา 

วิชาเพศศึกษาของเด็กไทย ได้เวลาต้องทบทวนครั้งใหญ่ เพราะสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น จากข้อเสนอของ “สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง” ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม และยอมรับข้อเท็จจริงว่าในยุคนี้เด็กเยาวชนไทยเรียนรู้สื่อสารในเรื่องเพศได้รวดเร็ว แตกต่างกับผู้ใหญ่ แต่ในความแตกต่างที่เกิดขึ้นในส่วนของผู้ใหญ่ที่ไม่มีลูกหลาน อาจไม่คิดถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามผู้ใหญ่ที่มีลูกหลานจะมองคนละมุม จะห้ามเด็กไม่ให้กระทำเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสม เหมือนยิ่งห้ามยิ่งยุ เพราะกลไกภาคธุรกิจทั้งผับ บาร์ สถานบันเทิง และร้านกินดื่ม ต่างก็มีโฆษณาดึงเด็กเยาวชนเข้าไปใช้บริการ

“สิ่งที่เกิดขึ้นก่อปัญหาเรื่องเพศที่ซับซ้อน แก้ไขยาก และในเชิงป้องกัน คงห้ามยาก แม้แต่ผู้ใหญ่ ยังไม่รู้ถึงการรับมือปัญหาทางเพศ เกิดความไม่พร้อมในผู้หญิง จนเกิดปรากฏการณ์ใช้ยาทำแท้งเมื่อท้องขึ้นมา ใช้โดยไม่รู้ เมื่อท่องหาข้อมูลในเว็บก็บอกว่าใช้ได้ผล เพราะหลักสูตรเพศศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของมหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานการศึกษา ให้ความรู้เพศศึกษาแบบสมกับวัยหรือไม่ บางครอบครัวก็ปิดๆ เปิดๆ ในเรื่องทางเพศ และบางสถาบันการศึกษา ก็เช่นกัน จนการมีเพศสัมพันธ์ที่ใช้เวลานิดเดียว นำไปสู่ปัญหาที่อันตรายมาก จากการไม่รับรู้ในการป้องกันตัวเอง และจะแก้ไขอย่างไร”

ที่ผ่านมามีโอกาสพูดคุยกับผู้หญิงที่ชอบความสัมพันธ์แบบวันไนต์สแตนด์ (One Night Stand) ไปปาร์ตี้ไปเจอกันในผับบาร์ ก็ชวนกันไปต่อ จนถูกทำร้ายทางเพศ ถูกกระทำชำเรา ก็ควรให้วัยรุ่นได้รู้ถึงอันตรายทางเพศ และให้คิดตามในเชิงป้องกัน หากเจอปัญหาจะทำอย่างไร หรือสถาบันการศึกษาที่ไม่มีมาตรฐาน มีการจ้างครูต่างประเทศ อาจเกิดการละเมิดทางเพศกับเด็กทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ซึ่งสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่ดูแลเด็ก ต้องมานั่งพูดคุยเพื่อทบทวนหลักสูตรเพศศึกษา เช่น ถ้าประจำเดือนไม่มา เพราะตั้งท้องจะเกิดปัญหาอะไรตามมา และหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยสอนในเรื่องเหล่านี้ 

“แค่สอนเรื่องเนื้อตัวร่างกายอวัยวะมีหน้าที่อย่างไรเท่านั้น ไม่สอนเด็กเมื่อพบรักในวัยเรียนจะทำอย่างไร แม้มีกฎหมายคุ้มครองสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์ แก้ปัญหาการท้องในเด็กเยาวชน แต่อยากให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ร่วมออกแบบหลักสูตรศึกษา ไปทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น ไปเสริมภูมิคุ้มกันให้กับเด็กอย่างไร และผู้ปกครองต้องเข้าใจสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์ของเด็ก อีกทั้งคนในบางครอบครัว ก็เอาเด็กไปกระทำชำเรา กลายเป็นปัญหาที่พัวพันกันไปหมด”

ทบทวนหลักสูตร เพิ่มทักษะชีวิตไม่ให้ถูกกระทำ-ทำคนอื่น

แนวทางแก้ปัญหาต้องเอาปรากฏการณ์ข่าวที่เกิดขึ้น เอามาให้เด็กคิด เหมือนลงแพ ก็ต้องมีเสื้อชูชีพ เอาตัวอย่างให้เด็กได้คิด เพราะแม้แต่คนเป็นหมอยังเคยโดน โชคดีที่ต่อสู้เอาตัวรอดมาได้ แต่ส่วนใหญ่คนที่ถูกกระทำมักเกิดอาการช็อกทำอะไรไม่ถูก และทุกวันนี้ทั้งชายและหญิงถูกกระทำ โดยเฉพาะคนใกล้ชิดอันตรายที่สุด ต้องสอนให้รู้จักระวังตัว การมีระยะห่าง แม้ไม่เปิดโอกาสให้กระทำ แต่ก็อาจถูกฉวยโอกาสได้ เพราะฉะนั้นต้องสอนในการแก้ปัญหา หากเจอสถานการณ์จะมีวิธีป้องกันตัวอย่างไร และเรียนรู้ในการควบคุมตัวเองไม่ให้กระทำกับคนอื่น

เรื่องหลักสูตรเพศศึกษาในปัจจุบัน ไม่สามารถบอกได้ว่าถอยหลังเข้าคลองหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญต้องเน้นในเรื่องทักษะการใช้ชีวิต ไม่ใช่เรียนวิชาการ จนลืมวิชาชีวิต จะต้องเรียนรู้วิเคราะห์และทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ให้เดินทางพลาด และบางครั้งเด็กคิดเองไม่เป็น จะต้องมีครูแนะแนวคอยแนะนำให้เด็กเรียนรู้ หากได้รับการฝึกอบรมจะทำให้คิดเป็น

แต่ในยุคนี้หลายครอบครัวมักจัดการทุกเรื่องให้ลูกหลานทั้งหมด ทำให้เด็กตัดสินใจไม่ได้ และยิ่งต้องอยู่กับโลกภายนอก ไปปฏิสังสรรค์กับคนหลากหลายในยุคนี้ ยิ่งน่าเป็นห่วง จึงควรทบทวนหลักสูตรเพศศึกษา มีการออกแบบตามเพศสภาวะและวัย ควรสอนตั้งแต่ระดับประถม หรืออนุบาล ให้เด็กรู้จักระวังตัวเอง เพราะมีข้อมูลว่าเด็กมีการละเมิดทางเพศตั้งแต่ระดับอนุบาล นำไปสู่การละเมิดทางเพศเมื่อเป็นผู้ใหญ่.

แบ่งปัน.
Exit mobile version