“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุ “บิ๊กต่าย” รักษาราชการ ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบ ปมสั่งออกราชการ มั่นใจ “บิ๊กโจ๊ก” ชนะ 100% ยัน ไม่ได้เข้าข้างแต่พูดข้อเท็จจริง ส่วนคดีอาญา ให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.
วันที่ 28 เม.ย. พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการสู้ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐาเป็นตัวปัญหาเพราะไปแต่งตั้งพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. ทั้งที่ไม่มีความรู้อะไรเลย
เรื่องนี้จึงต้องแยกระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกดำเนินคดี กับเรื่องถูกให้ออกจากราชไว้ก่อน อย่างที่ถูกดำเนินคดีเรื่องฟอกเงินส่งสำนวนไป ป.ป.ช..แล้ว ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ไต่สวน จะผิดหรือถูกไม่รู้ ซึ่งเป็นเรื่องของคดีอาญา ก็ต้องใช้เวลาอีกนาน ส่วนให้ออกจากราชการไว้ก่อนทำได้หรือไม่เพราะการที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ออกจากราชไว้ก่อนผิดกฎหมายหรือไม่ต้องมาดูตรงนี้ ซึ่งตนเองมองว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ไม่มีอำนาจให้ออกจากราชการ อย่าไปดูกฎหมายสั้นๆ ว่าถ้าตำรวจถูกดำเนินคดีอาญาแล้วผู้มีอำนาจสั่งให้ออกจากราชการได้ มีอำนาจก็จริง แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฎ ก.ตร. จะสั่งให้ออกเลยไม่ได้ ซึ่งกฎ ก.ตร. ระบุไว้ว่า หากข้าราชการตำตรวจถูกดำเนินคดีอาญาถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนสั่งให้ออกจากราชการได้กรณีหนึ่งกรณีใด เช่น สร้างความเสียหายต่อระบบราชการ ยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน ให้สินบนพนักงานสอบสวนหรือไม่ แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่สำนักนายกฯ ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเลย
ส่วนจะต้องมีคนรับผิดชอบหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าคนที่จะต้องรับผิดชอบก็คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เพราะเป็นคนออกคำสั่ง แต่นายกฯไปร่วมมือกับหรือไม่ก็ต้องไปตรวจสอบ เพราะนายกฯก็เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่กระบวนการสอบยังไม่เสร็จก็ส่งกลับ สตช. จึงตั้งข้อสังเกตได้ว่าส่งมาให้ทางนี้ฆ่าหรือไม่ตนเองเป็นคนนอกยังคิดได้เลยว่าร่วมมือด้วยหรือไม่” ดังนั้นมองว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถฟ้องได้
ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะกลับมาทันช่วงเดือนกันยายนหรือไม่นั้น มองว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการอุทธรณ์คำสั่ง ซึ่งมีเวลา 240 วัน ก็อาจจะไม่ทัน
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยังยืนยันว่าตนเองไม่ได้เข้าข้าง พล.ต.อสุรเชษฐ์ แต่เป็นการพูดข้อเท็จจริงให้ฟังและขอฟันธงว่าคดีดีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์จะ 100% แน่นอน