กลับลำเข้าเกียร์ถอยปล่อยคันเร่ง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตัดสินใจถอนคำร้องทุกข์เอาผิด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบจากการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และการออกคำสั่งส่งตัวกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่ยัง “ดับเครื่องชน” ฟ้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.และพนักงานสอบสวนคดีบ่อนพนันออนไลน์อีกกว่า 200 นาย
ฐานป้ายมลทิน “ฟอกเงินสีเทา” บานปลายจนศาลอาญาออกหมายจับ
นำไปสู่คำสั่งออกจากราชการ
นายพลคนดังไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเลือดเข้าตา “วิ่งรอก” ร้องขอความเป็นธรรมตามหน่วยงานต่างๆ หวังเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” ภายหลังเผชิญมรสุมชีวิตรับราชการครั้งสำคัญ
ระบุต้องออกมาใช้สิทธิในการต่อสู้อย่างถูกต้อง
“เรื่องนี้มีการกลั่นแกล้ง มีขบวนการแบ่งงานกันทำ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์โยงเข้าเกมเตะสกัดขัดขาไม่ให้ขึ้นนั่งตำแหน่ง “ผู้นำทัพ” ทั้งที่เป็น “แคนดิเดตอันดับแรก”
“ออกจากราชการแล้ว มีเวลาในการเตรียมตัวสู้คดีเยอะ หลังจากนี้เตรียมตั้งรับให้ทันแล้วกัน” เจ้าตัวเปิดแนวรบ “ผมเป็นคนใต้มีเลือดนักสู้ ถ้าเป็นคนอื่นคงหมอบแล้ว แต่ถ้าไม่สู้คงเสียสิทธิตลอดชีวิต”
“กระเหี้ยนกระหือรือ อยากเป็นมากหรือ ผบ.ตร.” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ปล่อยอารมณ์เดือดขึ้นเวทีแลกหมัดบนสังเวียน
ลุยฟัดแหลกคู่ความตามสไตล์ไร้รสชาติ “หวานเจี๊ยบ” เหมือนเก่า
ไม่มีใครรู้จุดจบจะเป็นอย่างไรตราบที่กรรมการยังไม่ยุติการชก.
สหบาท
คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม