“แสวง” เลขาฯ กกต. แถลงหลังเลือก สว. เสร็จสิ้น เตรียมประกาศผลหลัง 3 ก.ค.เป็นต้นไป ย้ำ หากพบทุจริตพร้อมสอย รับ เพราะระเบียบถูกยกเลิก จึงต้องดูตามองค์ประกอบกฎหมาย แจงเรื่องโพย ผู้สมัครบอกทำการบ้านมา

เมื่อเวลา 13.59 น. วันที่ 27 มิถุนายน 2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าวหลังการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศเสร็จสิ้น โดยถือว่าใช้เวลาไปนานพอสมควร ทำให้คนหลายอาชีพอยู่รวมกันหลายชั่วโมง พร้อมขอบคุณผู้สมัคร และยอมรับอาจดูแลไม่ค่อยดีเท่าที่ควรที่ผู้สมัครได้ทานอาหารหลังเที่ยง แต่ภาคค่ำก็มีการจัดอาหารหลัก อาหารว่าง โดยส่วนตัวกังวลว่าผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายมาอยู่ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี เกือบ 24 ชั่วโมง ไม่ได้ติดต่อครอบครัวเพราะมีการเก็บโทรศัพท์ ครอบครัวอาจมีความเป็นห่วงผู้สมัคร แต่เท่าที่สังเกตผู้สมัครก็ไม่ได้มีความกังวล และตนเองออกจากสถานที่เกือบ 06.00 น. หลังส่งผู้สมัครทุกคนแล้ว 

ส่วนผลการเลือก สว. ที่ประกาศผลคะแนนไปแล้ว ได้ผู้ที่จะไปเป็น สว. กลุ่มละ 10 คน รวม 200 คน และสำรองกลุ่มละ 5 คน รวม 100 คน ซึ่งตนในฐานะผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศ ได้รายงานผลต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเวลาเกือบ 06.00 น.ที่ผ่านมา ตามมาตรา 42 ซึ่ง กกต.จะพิจารณาประกาศผล โดยต้องรออีกไม่น้อยกว่า 5 วัน นับตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นวันที่ 3 กรกฎาคม แต่มีสิทธิที่จะประกาศผลการเลือก ถ้าเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

ส่วนกรณีคัดค้านการเลือก สว. ก่อนประกาศผลยังยื่นที่ศาลฎีกาได้ใน 3 วัน หรือร้องที่ กกต.ก็ได้ โดยเป็นการร้องการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องความสุจริตและเที่ยงธรรม ถ้าเห็นว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทางด้านกรณีการเลือกที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก็สามารถร้องที่ กกต.ได้ทั้งก่อนและหลังการประกาศผล ตามมาตรา 60 และ 62 ซึ่ง กกต.ต้องพิจารณาก่อนส่งศาล

นายแสวง ยังกล่าวต่อไปถึงเรื่องข้อสังเกตและความผิดปกติในการลงคะแนน ว่า กกต.ยังคงรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการฮั้วหรือการบล็อกโหวต โดยต้องดูกฎหมาย ซึ่งระเบียบเก่าจะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้น้อย แต่เมื่อระเบียบถูกยกเลิก กฎหมายระบุว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเห็นใครพูดว่าผิดกฎหมาย ทั้งเรื่องโพย การบล็อกโหวต แต่เวลา กกต.ทำงานต้องดูว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดหรือไม่ ความผิดนั้นมีองค์ประกอบความผิดว่าอย่างไร และต้องหาข้อเท็จจริงจนสิ้นกระแสความ เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย แล้วมาวินิจฉัย ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

“ถ้าเราบอกว่าเรื่องฮั้วหรือการบล็อกโหวต พื้นฐานมันอาจจะเกิดจากเงินก็ได้ นั่นผิดกฎหมายแน่นอน คือ มาตรา 71 (1) การให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันนี้เข้ากฎหมายแน่นอน แต่ถ้าบอกว่าชวนกันมา หรือแลกคะแนนกันโดยไม่เสียเงิน อันนี้เป็นปัญหาทางกฎหมายแล้ว อย่างที่ผมบอกว่าระเบียบเราถูกยกเลิกไป เราก็จะมีปัญหาในการที่จะเอากฎหมายไปจับตรงนี้ว่ามันผิดแค่ไหน อย่างไร ซึ่งอย่างไรก็แล้วแต่ เราจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุดในทุกเรื่อง”

ส่วนการยื่นคำร้องมีทั้งหมด 614 เรื่อง เป็นคุณสมบัติ ขอร้องให้ลบชื่อ 65% ความไม่สุจริต 14% นอกนั้นเป็นคำร้องอื่นๆ ประมาณ 4% และกำลังพิจารณาเรื่องการให้ใบส้ม โดยในชั้นอำเภอร้องมากที่สุด ขณะที่ประเด็นกลุ่ม สว. อาจเกี่ยวโยงพรรคการเมืองนั้น กกต.ตรวสอบอยู่แล้ว โดยพยายามจะเอากฎหมายมาใช้ เราอยากให้การเลือกสุจริตเที่ยงธรรม โดยต้องไปสืบสวนและเห็นว่ามีการให้ประโยชน์ กำลังหาหลักฐานส่วนนี้มาสนับสนุน สำหรับการไปรวมตัวก่อนวันเลือก ก็เป็นสิทธิตามกฎหมาย นอกจากจะไปทำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็อาจจะเข้าข่ายความผิด 

พร้อมกันนี้ นายแสวง ยังได้ชี้แจงถึงการเลือก สว.ระดับประเทศ ที่ใช้เวลานาน โดยยอมรับไม่คิดว่าจะนาน ซึ่งช่วงเช้ามีผู้สมัครราว 150 คนต่อกลุ่ม ใช้เวลาลงคะแนนและอ่านแต่ละกลุ่ม 1,500 ชื่อ ต้องอ่านอย่างชัดเจน เมื่อเข้าสู่รอบบ่ายคิดว่าจะใช้เวลาน้อย แต่สายหนึ่งต้องใช้เวลาอ่าน 8,000 ครั้ง อีกทั้งในรอบไขว้นี้มีการยึดเอกสารจากตัวผู้สมัครทั้งหมด การลงคะแนนจึงอาจใช้เวลามากกว่าเดิม เพราะบางคนทำการบ้านมา ขณะที่การขานคะแนนก็ต้องอ่านช้าๆ อ่านทีละกลุ่มในสายของรอบไขว้ ใช้วิธีขีด 4 กระดานพร้อมกัน ทำให้ช้า เพราะถ้าเร่งจะรวนได้

ทางด้านเรื่องโพย ผู้สมัครบอกทำการบ้านมา เพราะต้องเขียนหมายเลขเยอะ จำยาก เพราะมาจากคนละกลุ่ม ส่วนคำถามเรื่องการเข้าห้องน้ำไปคุยกัน ยอมรับว่ามี ซึ่งเราก็มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในห้องน้ำด้วย แต่เป็นในลักษณะการคุยกันปกติ ซึ่งเรื่องที่บอกว่าเป็นโพย คาดว่าน่าจะจดมาจากบ้าน เป็นการทำการบ้านมา ส่วนการที่ผู้สมัครพูดคุยกันก็เป็นเรื่องปกติ แต่จะรู้จักกันหรือไม่ ไม่ทราบ โดยต้องสืบสวนต่อไป ต้องพิสูจน์ให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ง่าย 

ขณะที่ประเด็นผู้สมัครร้องเรียนว่าการขานคะแนนของเจ้าหน้าที่ไม่ตรงกับคะแนนที่เขียนลงกระดาษนั้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างช้าและชัดเจน อีกทั้งในห้องที่จัดการเลือก สว. มีการบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด แต่อาจจะเป็นเพราะมีการตกลงที่จะให้คะแนนกันก่อนหน้าที่จะเลือก แต่เมื่อเลือกเสร็จนับคะแนนออกมาผลเป็นไปตามที่ตกลง จึงเข้าใจว่าคะแนนหาย รวมถึงหลังได้รายชื่อ สว. 200 คน ออกมามีการตั้งข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ใกล้ชิดของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งนั้น เรื่องนี้หากมีมูลหรือพบว่ามีความผิดปกติจริงก็ต้องตรวจสอบ แต่เนื่องด้วยกฎหมายที่ใช้สำหรับการเลือก สว.ครั้งนี้เป็นเรื่องใหม่ ที่เปิดกว้างให้ทุกคนทุกอาชีพได้เข้ามาสมัครและรับเลือก เมื่อผลการเลือกออกมาแล้วก็ต้องยอมรับ แต่หากทำผิดหรือมีการทุจริต ก็พร้อมที่จะสอยตามทีหลัง 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไป หากย้อนเวลากลับไปได้อยากจะกลับไปแก้ไขในเรื่องไหนที่จะไม่ทำให้มันมีปัญหายุ่งเหยิงมาจนถึงตอนนี้ นายแสวง ตอบว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เมื่อมันได้ออกมาแบบนี้แล้วก็ต้องยอมรับ ส่วนหลังจากนี้ก็ไปตรวจสอบตามเรื่องที่ร้องเรียน อย่างไรเสียก็พร้อมที่จะสอยคนที่ทำผิดอยู่แล้ว

“มันเกินกำลังคนตัวเล็กๆ อย่างผมครับ มันเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน สภาเขาออกแบบมาอย่างนี้ เราก็มีหน้าที่ทำ ทำให้ดีที่สุด แต่ถามว่ามันได้อย่างที่รัฐธรรมนูญออกแบบหรือไม่ เขาออกแบบไหว้มันสวยแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ออกแบบหรอก แต่พอมันใช้แล้ว เราแก้อะไรไม่ได้ด้วย จนถึงวันนี้ทุกอย่างมันแทบจะไปแล้วเนี่ย นอกจากทำผิดควักออก แค่นั้นเอง” อย่างไรก็ตาม นายแสวง ระบุด้วยว่า ไม่มีความเห็นเรื่องหน้าตาวุฒิสภา อย่าให้มีความเห็นเลย เดี๋ยวจะเดือดร้อน 

แบ่งปัน.
Exit mobile version